พบร่างไร้วิญญาณอย่างน้อย 3 ศพระหว่างเบียดเสียดกันด้านนอกสนามบินคาบูลในวันเสาร์ (21 ส.ค.) ท่ามกลางผู้คนหลายพันพยายามตะเกียกตะกายอพยพด้วยความโกลาหลหลบหนีตอลิบานที่ขึ้นปกครองอัฟกานิสถาน หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ (20 ส.ค.) เพิ่งปรากฏภาพเศร้าใจบนสื่อสังคมออนไลน์ ชายอัฟกันส่งลูกน้อยให้นาวิกโยธินสหรัฐฯ ที่อยู่บนกำแพงสนามบิน ในความรู้สึกสิ้นหวังต่อสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง
สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างคลิปวิดีโอจากสำนักข่าวสกายนิวส์ของอังกฤษ เป็นภาพที่ทหารกำลังนำผ้าใบสีขาวมาคลุมร่างไร้วิญญาณ 3 ศพ อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าพวกเขาเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด
สจ๊วร์ต แรมซีย์ ผู้สื่อข่าวของสกายนิวส์ ซึ่งอยู่ที่สนามบิน ระบุว่า ผู้คนอยู่บริเวณด้านหน้าเกิดเบียดเสียดกันจนมีผู้เสียชีวิต ภาพในวิดีโอยังพบเห็นผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน และแพทย์ฉุกเฉินรุดไปดูอาการเหยื่อทีละราย
แรมซีย์รายงานต่อว่า ผู้คนจำนวนมากอยู่ในภาวะร่างกายสูญเสียน้ำ พร้อมเผยแพร่คลิปตอนที่ทหารกำลังฉีดน้ำเข้าใส่ฝูงชน และระบุว่า ทหารกำลังใช้ทุกอย่างเท่าที่จะหาได้ หวังทำให้อารมณ์ของฝูงชนสงบลง
ด้วยสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง แรมซีย์กล่าวระหว่างรายงานว่า เหตุเสียชีวิตดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่ง "ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้"
สนามบินแห่งนี้ตกอยู่ท่ามกลางความโกลาหลมาตั้งแต่ตอลิบานเข้าควบคุมกรุงคาบูลเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ประชาชนชาวอัฟกานิสถานหลายหมื่นคนทนตากแดดนานหลายชั่วโมงหรือกระทั่งนานหลายวัน ในความพยายามขึ้นเครื่องบินอพยพออกนอกประเทศ
ท้องถนนสายต่างๆ ที่มุ่งหน้าสู่สนามบินนั้นการจราจรติดขัดอย่างหนัก และมีรายงานว่าตอลิบานและนักรบกลุ่มอื่นๆ เรียกหยุดตรวจ ทำร้ายหรือก่อกวนชาวอัฟกานิสถานที่พยายามหลบหนี
สหรัฐฯ ซึ่งควบคุมสนามบิน ประกาศเตือนซ้ำๆ ให้ประชาชนอยู่ห่างจากสนามบิน จนกว่าพวกเขาจะมีรายชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีอพยพ และในวันเสาร์ (21 ส.ค.) พวกเขาออกคำเตือนอีกรอบ อ้างถึงความเป็นไปได้ที่จะมีภัยคุกคามด้านความปลอดภัยใกล้ประตูสนามบิน
ในขณะที่ตอลิบานคือกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีในกรุงคาบูลมาช้านาน แต่อีกด้านหนึ่ง พวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) ก็ปรากฏตัวในเมืองหลวงของอัฟกานิสถานเช่นกัน และเคยลงมือโจมตีทำลายล้างมาแล้วหลายครั้ง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เรียกการอพยพทางอากาศครั้งนี้ว่า "เป็นครั้งใหญ่ที่สุดและยุ่งยากที่สุด" ในประวัติศาสตร์
รายงานข่าวการพบผู้เสียชีวิตระหว่างเบียดเสียดแย่งกันอพยพ มีขึ้นเพียง 1 วันหลังจากปรากฏคลิปวิดีโอที่ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวาบนสื่อสังคมออนไลน์ ชายชาวอัฟกานิสถานรายหนึ่งส่งทารกน้อยให้นาวิกโยธินสหรัฐฯ ที่อยู่บนกำแพงสนามบินโน้มตัวลงมารับ
คลิปวิดีโอที่บันทึกโดยโอมาร์ ไฮดารี นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน แสดงให้เห็นเด็กทารกแรกเกิดกำลังร้องไห้ ถูกยื่นส่งให้นาวิกโยธินสหรัฐฯ จากหน่วยนาวิกโยธินโพ้นทะเลที่ 24 (24th Marine Expeditionary Unit) หิ้วข้ามลวดหนามที่เสริมอยู่บนกำแพงรั้วของสนามบินฮามิด คาไซ ในกรุงคาบูล ก่อนส่งต่อให้เพื่อน และคลิปนี้ได้กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ในเวลาต่อมา
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่า ทารกได้รับการดูแลโดยบุคลากรการแพทย์ที่โรงพยาบาลสนามของนอร์เวย์ที่สนามบิน หลังจากพ่อแม่ของเด็กขอร้องให้ช่วยเพราะเด็กป่วย ซึ่งตอนนี้ปลอดภัยดีและได้กลับคืนสู่อ้อมอกพ่อแล้ว แต่บอกไม่ได้ว่าพวกเขาไปอยู่ที่ไหนในตอนนี้
นอกจากนี้แล้ว ในโลกออนไลน์ยังคงมีคลิปวิดีโอบีบหัวใจที่แสดงให้เห็นชาวอัฟกันหลายพันคน พยายามดิ้นรนที่จะเข้าไปในสนามบิน มีเสียงร้องไห้ของเด็กๆ ที่พลัดหลงจากพ่อแม่ และมีทารกอย่างน้อย 3 คน ที่ถูกพ่อแม่ยื่นส่งให้ทหารเพราะต้องการให้ลูกน้อยปลอดภัย
(ที่มา : เอเอฟพี/วอชิงตันโพสต์)