ค่าเฉลี่ย 7 วันผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ พุ่งสู่ 645 รายในวันศุกร์ (13 ส.ค.) เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในช่วง 2 สัปดาห์ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ตามข้อมูลที่รวบรวมโดยมหาวิทยาลัยจอห์น ฮ็อบกินส์
ขณะเดียวกัน ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮ็อบกินส์ ยังพบด้วยว่า ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นมาราวๆ 66% กลับสู่ระดับเดียวที่เคยพบเห็นในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากค่าเฉลี่ย 7 วันจนถึงวันศุกร์ (13 ส.ค.) ดีดตัวขึ้นเป็น 128,000 คนต่อวัน
ในขณะที่ทั่วประเทศกำลังต่อสู้กับตัวกลายพันธุ์เดลตา ที่ก่อให้เกิดการเสียชีวิตระลอกใหม่นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่อุบัติขึ้นเมื่อ 18 เดือนก่อน บรรดาเจ้าหน้าที่ด้านการศึกษาและรัฐบาลกลางกลับยังคงต่อสู้ถกเถียงกันเกี่ยวกับมาตรการบังคับสวมหน้ากากตามโรงเรียนทั้งหลาย
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอรัล รายงานในวันเสาร์ (14 ส.ค.) ว่าคนไข้โควิด-19 ในช่วงอายุ 30 ปีเศษๆ ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นแตะระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด ส่งสัญญาณว่าตัวกลายพันธุ์เดลตากำลังเล่นงานอย่างหนักต่อกลุ่มคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน
ที่ผ่านมา ในการแพร่ระบาดระลอกก่อนหน้านี้ กลุ่มคนวัย 30 ปีเศษๆ ซึ่งเป็นช่วงอายุของวัยทำงานและเป็นพ่อคนแม่คน รอดพ้นเป็นส่วนใหญ่จากการติดเชื้อโควิด-19 อาการหนักถึงขั้นเข้ารักษาในโรงพยาบาล สืบเนื่องจากการมีสุขภาพที่ค่อนข้างแข็งแรง
อย่างไรก็ตาม เวลานี้สหรัฐฯ กำลังพบเห็นกลุ่มคนวัยดังกล่าวเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น ระหว่างการแพร่ระบาดระลอกปัจจุบันที่มีตัวกลายพันธุ์เดลตาเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ในขณะที่บรรดาแพทย์และนักโรคระบาดวิทยาชี้ว่า ปัจจัยหลักคือความล้มเหลวในการโน้มน้าวอเมริกันชนจำนวนมากให้เข้ารับวัคซีน และการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง
อัตราวัยผู้ใหญ่อายุระหว่าง 30 ถึง 39 ปี ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19 ขยับขึ้นแตะระดับ 2.5 คนต่อประชากร 100,000 คนจนถึงวันพุธ (11 ส.ค.) ตามข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) สูงกว่าช่วงพีกสุดก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนมกราคม โดยในช่วงดังกล่าวมีอัตราประชากรผู้ใหญ่อายุระหว่าง 30 ถึง 39 ปี เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19 ที่ 2 คนต่อประชากร 100,000 คน
นอกจากนี้แล้ว เรื่องน่าเศร้ายังเกิดขึ้นกับเด็กๆ ชาวสหรัฐฯ เช่นกัน เบื้องต้นโควิด-19 สายพันธุ์ต่างๆ ที่แพร่ระบาดในระยะแรกมักไม่ส่งผลกระทบต่อเด็กๆ ผิดกับตัวกลายพันธุ์เดลตาที่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ส่งผลให้มีเด็กติดเชื้ออาการหนักเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น ตามรายงานของสถานีวิทยุสาธารณะแห่งชาติ (เอ็นพีอาร์) ในวันเสาร์ (14 ส.ค.)
"ตอนนี้บุคลากรสาธารณสุขแถวหน้าพากันพูดว่า อีกหนึ่งเค้ารางแห่งความกังวลกำลังคืบคลานเข้ามา นั่นคือมีเด็กๆ มากขึ้นที่ถูกตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ร่วมกับไวรัส RSV (เชื้อที่ก่อให้เกิดโรคในทางเดินหายใจ โดยเฉพาะเด็กเล็ก)" รายงานระบุ ขณะที่ซีดีซีเคยบอกว่ามันเสี่ยงทำให้ทารกและเยาวชนถึงขั้นเสียชีวิต
โรงพยาบาลเด็กในเทกซัส และทั่วประเทศ รายงานกำลังพบการแพร่ระบาดนอกฤดูกาลของ RSV ทั้งนี้ แม้ส่วนใหญ่แล้วมันก่ออาการป่วยเล็กๆ น้อยๆ และมีอาการต่างๆ คล้ายกับคนเป็นหวัดในผู้ใหญ่ แต่มันสามารถก่อให้เกิดอาการปอดอักเสบและหลอดลมฝอยอักเสบในเด็กอายุน้อยๆ
(ที่มา : บลูมเบิร์ก/เอพี/ซินหัว/วอลล์สตรีท เจอร์นัล)