ไบเดนยกย่องการผ่านร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานครั้งประวัติศาสตร์มูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ของสภาสูงเป็นชัยชนะสำคัญของทั้งเดโมแครตและรีพับลิกัน และจะช่วยแปลงโฉมอเมริกา สร้างงานที่มีค่าตอบแทนสูงหลายพันตำแหน่งสำหรับผู้ที่ไม่มีปริญญาการันตี
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวันอังคาร (10 ส.ค.) ว่า การผ่านร่างกฎหมายนี้ ซึ่งจะเป็นการลงทุนครั้งประวัติศาสตร์ในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการสร้างถนน สะพาน ท่าเรือ น้ำสะอาด และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แสดงให้เห็นว่า ทั้ง 2 พรรคยังสามารถทำงานร่วมกันได้
หลังจากที่ผู้นำเดโมแครตและวุฒิสมาชิกจากทั้ง 2 พรรคร่วมฉลองความสำเร็จของการทำข้อตกลงเบื้องต้นซึ่งมีเพียงโครงกว้างๆ เมื่อราว 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา ร่างกฎหมายซึ่งมีเนื้อหาสาระครบถ้วนแล้วฉบับนี้ก็สามารถผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสมาชิกของทั้ง 2 พรรคอย่างที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักเมื่อวันอังคาร ด้วยคะแนน 69 ต่อ 30 โดยได้รับการสนับสนุนนจากวุฒิสมาชิกรีพับลิกันจำนวนราว 1 ใน 3
มาตรการนี้จะจัดหางบประมาณ 550,000 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง ระบบขนส่งสาธารณะ บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต น้ำสะอาด สถานีชาร์จรถไฟฟ้า และมาตรการอื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเดโมแครตในสภาสูง ยกเครดิตให้ไบเดนสำหรับการผ่านมาตรการอัดฉีดโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ครั้งแรกในรอบทศวรรษโดยได้รับการสนับสนุนจากทั้ง 2 พรรค ทั้งที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 7 เดือน
เช่นเดียวกับมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างน้อยของรีพับลิกันในวุฒิสภา ที่โหวตให้เนื่องจากตระหนักว่า ร่างกฎหมายนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากผู้มีสิทธิออกเสียง แม้วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน 3 คนที่เข้าร่วมเจรจาก่อนที่สภาสูงจะลงมติอนุมัติล่าสุด ประกาศว่า จะไม่สนับสนุนหลังถูกอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่แก้แค้นพวกที่ช่วยให้ไบเดนประสบชัยชนะทางการเมืองก็ตาม
ขั้นตอนต่อไปคือ ส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาอนุมัติในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ ซึ่งดูเหมือนยังไร้ความแน่นอน เนื่องจาก ส.ส.เดโมแครตที่ครองเสียงเกินกึ่งหนึ่งเพียงเล็กน้อยนั้น เกิดความแตกแยกกันเองระหว่างกลุ่มสายกลางกับพวกหัวก้าวหน้า ทำให้มีแนวโน้มว่า การเจรจาจะลากยาวและกว่าที่รัฐสภาจะสามารถลงมติรอบสุดท้ายอาจเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง
ทางด้าน ซูซาน คลาร์ก ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) ของหอการค้าอเมริกัน แถลงยกย่องว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งประวัติศาสตร์ในโครงสร้างพื้นฐานที่ชำรุดทรุดโทรมของอเมริกา ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและศักยภาพการแข่งขันของประเทศในทศวรรษต่อๆ ไป
ทั้งนี้ จากการศึกษาของกลุ่มธุรกิจทรงอิทธิพล บิสเนส ราวด์เทเบิล ทุก 1 ดอลลาร์จากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในระยะเวลา 20 ปีจะให้ผลตอบแทนเกือบ 4 ดอลลาร์ในแง่การเติบโตทางเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงของครัวเรือนเฉลี่ยปีละ 1,800 ดอลลาร์ สร้างงานใหม่ 1.2 ล้านตำแหน่ง และสนับสนุนการขึ้นค่าแรง
มาตรการโครงสร้างพื้นฐานนี้เป็นเพียงส่วนแรกของนโยบายภายในประเทศขนาดใหญ่ของไบเดนที่มุ่งแปลงโฉมอเมริกาด้วยงบประมาณรวมแล้วกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์
ขณะนี้ เดโมแครตกำลังเตรียมการขั้นตอนต่อไปคือ กรอบโครงงบประมาณมูลค่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ที่ครอบคลุมการลงทุนขนาดใหญ่ด้านสุขภาพ การศึกษา การแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการขยายโครงการสวัสดิการสังคม ซึ่งแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต ระบุว่า จะช่วยชุบชีวิตชนชั้นกลางและฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ สร้างงานที่มีรายได้ดี และส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันและการเติบโตของอเมริกา
(ที่มา : เอเอฟพี)
