ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินสไลด์ที่รัฐมหาราษฏระ ทางตะวันตกของอินเดีย เบื้องต้น มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 112 คน ขณะที่หลายร้อยหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
หลายพื้นที่ริมชายฝั่งตะวันตกของอินเดียมีปริมาณฝนมากถึง 594 มิลลิเมตรในเวลา 24 ชั่วโมงเมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) ส่งผลให้ทางการต้องสั่งระบายน้ำออกจากเขื่อนบางแห่ง และมีการอพยพผู้คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย
“ฝนที่ตกลงมามากผิดปกติทำให้เกิดดินสไลด์หลายจุด และแม่น้ำเอ่อล้นตลิ่ง” อุดดาฟ ทัคเคอราย มุขมนตรัฐมหาราษฏระ แถลงต่อสื่อมวลชนวานนี้ (23)
“เขื่อนและแม่น้ำหลายสายมีปริมาณน้ำมากจนเอ่อล้น เราจึงจำเป็นต้องปล่อยน้ำบางส่วนออกจากเขื่อน และได้มีการอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำออกไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยกว่าแล้ว”
กองทัพบกและกองทัพเรืออินเดียได้ส่งกำลังพลเข้ามาช่วยเหลือในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ชายฝั่งด้วย
ขณะเดียวกัน มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 คน ที่หมู่บ้านตาลิเย (Taliye) ซึ่งอยู่ห่างจากนครมุมไบไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 180 กิโลเมตร หลังมีดินโคลนจากภูเขาไหลลงมาทับบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายเกือบยกหมู่บ้าน
เจ้าหน้าที่ยังได้รับรายงานเหตุดินสไลด์ในพื้นที่อื่นๆ อีก 9 แห่ง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอีก 59 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุอันเนื่องจากฝนตกหนักอีกอย่างน้อย 15 คน
รถบรรทุกหลายพันคันจอดติดอยู่บนทางหลวงที่เชื่อมระหว่างมุมไบกับบังคาลอร์ เนื่องจากถนนหลายจุดมีน้ำท่วมสูง ขณะที่ประชาชนหลายร้อยหมู่บ้านเผชิญปัญหาไฟฟ้าดับและขาดแคลนน้ำดื่ม
แม่น้ำหลายสายในรัฐใกล้เคียงอย่างกรณาฏกะ และเตลันกานา เริ่มเอ่อล้นตลิ่งเช่นกัน ซึ่งทำให้รัฐบาลท้องถิ่นต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ฤดูมรสุมในอินเดียจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย. เรื่อยไปจนถึง ก.ย. และแม้จะก่อความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมากทุกปี แต่ก็เป็นแหล่งที่มาของปริมาณน้ำฝนกว่า 70% ที่เกษตรกรจะได้ใช้ในการเพาะปลูก
ที่มา : รอยเตอร์