หญิงสาวชาวโคลอมเบียรายหนึ่งต้องมาจบชีวิตอย่างน่าสลดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอกระโดดบันจี้จัมป์ดิ่งสู่เหวลึกมุ่งหน้าสู่ความตาย หลังการสื่อสารผิดพลาดเป็นเหตุให้เธอกระโจนลงจากสะพานทั้งที่ยังไม่ทันได้ผูกเชือก
"เธอสับสน" กุสตาโว กุซมัน นายกเทศมนตรีเฟรโดเนีย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่น เกี่ยวกับอุบัติเหตุแปลกประหลาดซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (18 ก.ค.) ในเมืองอามากา ทางเหนือของโคลอมเบีย
เนเซเนีย โมราเลส สาววัย 25 ปี ซึ่งกระโดดบันจี้จัมป์เป็นครั้งแรก และแฟนหนุ่มของเธอซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ เดินทางไปยังสะพานอามากา จุดกระโดดบันจี้จัมป์ยอดนิยมที่ดูแลโดยบริษัทท้องถิ่น สกาย บันจี้ จัมพ์ปิ้ง ตามรายงานของสำนักข่าวนิวส์แฟลช พร้อมระบุว่า ทั้ง 2,คนเป็นนักกระโดดรายที่ 90 ของวันนั้น
ความผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากผู้ควบคุมส่งสัญญาณให้แฟนหนุ่มของโมราเลส ซึ่งต่อแถวอยู่ข้างหน้าเธอกระโดดลงไป แต่ด้วยที่คิดว่ามันเป็นการส่งสัญญาณให้เธอเป็นคนกระโดด ทนายความสาวรายนี้จึงกระโจนออกไปนอกสะพานโดยที่ยังไม่ได้ผูกเชือก และดิ่งลงสู่หุบเหวเบื้องล่างลึกกว่า 164 ฟุต
แฟนหนุ่มของเธอถึงกับช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า และพอตั้งสติได้เขาก็รุดไต่ลงไปค้นหาร่างคนรักของเขา จากนั้นก็พยายามช่วยฟื้นคืนชีพด้วยวิธีปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่เป็นผล และต่อมาเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงยืนยันว่าเธอเสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ
รายงานด้านการแพทย์ในเวลาต่อมา ระบุว่า นอกเหนือจากร่องรอยบาดแผลจากการร่วงกระแทกพื้น หญิงสาวรายนี้อาจเกิดอาการหัวใจวายตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว ส่วนแฟนหนุ่มของเธอได้รับการรักษาพยาบาลอาการบาดเจ็บที่เขาได้รับระหว่างที่ตะเกียกตะกายไต่ลงไปค้นหาร่างของคนรัก และมีรายงานว่าเขาอยู่ในสภาพช็อก
กุซมัน เน้นย้ำว่าเรื่องเศร้าครั้งนี้มีต้นตอจากความเข้าใจผิดใหญ่หลวง "สัญญาณคือให้แฟนหนุ่มของเธอเป็นคนกระโดด เพราะว่าเขามัดอุปกรณ์ความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว พวกเขาเพิ่งใส่สายรัดให้เธอ ดังนั้นเธอจึงเกิดความสับสน"
กระนั้นก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เปิดการสืบสวนคำกล่าวอ้างที่ว่ามีหลายบริษัทที่ให้บริการบันจี้จัมป์บริเวณดังกล่าวไม่มีใบอนุญาต
(ที่มา : นิวยอร์กโพสต์)