มีผู้เสียชีวิต 18 รายเมื่อวันอาทิตย์ (11 ก.ค.) หลังเกิดสายฟ้ารุนแรงฟาดลงมาใส่พวกนักท่องเที่ยวที่กำลังยืนถ่ายเซลฟี่กับพายุบนป้อมโบราณแห่งหนึ่งในเมืองชัยปุระ ของอินเดีย ภาพเหตุการณ์ระทึกที่เผยแพร่โดยสื่อมวลชนท้องถิ่นและสื่อสังคมออนไลน์
รายงานข่าวของบีบีซีนิวส์ระบุว่า มีทั้งหมด 27 คนที่อยู่บริเวณด้านบนของป้อมปราการอาเมร์ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ตอนที่เกิดฟ้าผ่า เกือบทั้งหมดเป็นคนหนุ่มสาว และเหยื่อบางคนกระโจนลงพื้นตอนที่สายฟ้าฟาดลงมา
ภาพวิดีโอที่เผยแพร่โดยสื่อมวลชนท้องถิ่นเป็นภาพถ่ายจากระยะไกลวินาทีระทึกที่สายฟ้าฟาดลงสู่ป้อมโบราณ สื่อสำนักข่าวเอเอ็นไอ พันธมิตรของรอยเตอร์เผยแพร่ภาพรองเท้าของผู้เสียชีวิตตกกระจัดกระจายอยู่ภายในป้อม
"หลายคนตายต่อหน้าต่อตาเรา ถ้ามีคนเข้าไปช่วยและเจ้าหน้าที่มาถึงทันเวลา บางทีพวกเขาอาจมีชีวิตรอด" ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งบอกกับสำนักข่าเอเอ็นไอ "เรานำตัวหลายคนลงมา เราช่วยเหลือคนที่ยังมีชีวิต คนเหล่าานี้ยังหายใจอยู่และดึงบางคนออกจากช่องแคบๆ"
นอกจากนักท่องเที่ยวเหล่านี้แล้ว ยังมีอีกหลายสิบคนที่เสียชีวิตจากฟ้าผ่าที่มีต้นตอระบบพายุหนึ่งซึ่งซัดผ่านทางเหนือของอินเดีย ในนั้น 9 รายเสียชีวิตในรัฐราชสถาน รัฐอันเป็นที่ตั้งของเมืองชัยปุระ อีกอย่างน้อย 41 คนเสียชีวิตในรัฐอุตตรประเทศ และ 7 คนในรัฐมัธยประเทศ
เหตุฟ่าผ่าเกิดขึ้นเป็นปกติในอินเดีย มันคร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 2,000 คนในแต่ละปี โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม ซึ่งผู้คนทำงานและใช้เวลาส่วนใหญ่ในที่โล่งแจ้ง
ทั้งนี้ ฟ้าผ่าเกิดขึ้นเป็นปกติระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายน ในช่วงฤดูมรสุมของอินเดีย และระยะหลังเชื่อว่ามันมีความถี่มากยิ่งขึ้น จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาอินเดียพบว่า มีเหตุฟ้าฝ่าเพิ่มขึ้นราว 30% ถึง 40% ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา แนวโน้มที่บางคนสันนิษฐานว่ามันเป็นผลจากภาวะโลกร้อน
อโศก เคห์ลอต มุขมนตรีรัฐราชสถาน ภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แถลงให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นเงิน 500,000 รูปี (ราว 220,000 บาท)
ขณะเดียวกัน เหตุการณ์นี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้นิยมถ่ายภาพเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงเพียงเพื่อถ่ายเซลฟี่ โดยข้อมูลเร็วๆ นี้พบว่าระหว่างปี 2011-2017 มีผู้คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายเซลฟี่อย่างน้อย 259 ราย ในนั้นรวมถึงเสี่ยงถ่ายภาพริมเหวและพยายามใกล้ชิดกับสัตว์ป่ามากเกินไป
(ที่มา : นิวยอร์กโพสต์/รอยเตอร์/บีบีซี)