ตอลิบานแถลงในวันพุธ (14 ก.ค.) สามารถยึดจุดผ่านแดนติดต่อกับปากีสถานที่ทรงความสำคัญทางยุทธศาสตร์ได้สำเร็จแล้ว ทว่า ทางการอัฟกานิสถานปฏิเสธการกล่าวอ้างดังกล่าว ขณะที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ ออกมากล่าวโจมตีคณะบริหารประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่าตัดสินใจผิดพลาด ระบุการถอนทหารอเมริกันทั้งหมดเท่ากับปล่อยให้ตอลิบานไล่เข่นฆ่าพลเรือนชาวอัฟกัน
กลุ่มนักรบตอลิบานประกาศว่า สามารถเข้าควบคุมเขตสปินโบลดัก ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนระหว่างอัฟกานิสถานกับปากีสถาน ซึ่งมีความสำคัญมาก และถือเป็นพื้นที่ล่าสุดที่กลุ่มก่อความไม่สงบกลุ่มนี้ยึดได้ นับจากที่กองกำลังนานาชาติที่นำโดยอเมริกาทยอยถอนตัวออกจากอัฟกานิสถานเมื่อเร็วๆ นี้
ทว่า กระทรวงมหาดไทยอัฟกานิสถาน แถลงตอบโต้โดยยืนยันว่า กองกำลังของรัฐบาลได้ขับไล่นักรบตอลิบานและยึดสปินโบลดัก ที่อยู่ในจังหวัดกันดาฮาร์กลับมาได้แล้ว ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เผยว่า ยังมีการต่อสู้กันต่อเนื่องและไม่ชัดเจนว่า ฝ่ายใดกันแน่ที่ควบคุมเมืองนี้อยู่ สำหรับในโซเชียลมีเดียนั้นเต็มไปด้วยภาพนักรบตอลิบานอยู่ภายในเมืองดังกล่าวโดยที่มีท่าทีผ่อนคลาย
พื้นที่แห่งนี้เป็นจุดผ่านแดนที่ถือกันว่าทรงความสำคัญเป็นอันดับ 2 บนแนวชายแดนระหว่างอัฟกานิสถานกับปากีสถาน โดยเป็นจุดที่เชื่อมโยงจังหวัดกันดาฮาร์ทางฝั่งอัฟกานิสถาน กับแคว้นบาโลจิสถานของปากีสถาน ทั้งนี้ บาโลจิสถานถูกใช้เป็นที่กบดานของพวกผู้นำระดับสูงของตอลิบานมานานหลายสิบปี นอกจากนั้น ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังเมืองท่าหลายๆ แห่งของปากีสถาน โดยข้อมูลของทางการอัฟกานิสถานระบุว่า ในแต่ละวันมีรถบรรทุกวิ่งข้ามแดนในจุดนี้ราว 900 คัน
ตอลิบานซึ่งกำลังต่อสู้เพื่อขับไล่กองกำลังต่างชาติและรัฐบาลในกรุงคาบูลที่อเมริกาให้การสนับสนุน นับตั้งแต่ที่ตนเองถูกโค่นล้มตกลงอำนาจในปี 2001 นั้น ล่าสุดสามารถยึดจุดผ่านแดน 4 แห่งทางทิศเหนือและตะวันตก รวมถึงยึดพื้นที่ชนบทและตัวอำเภอต่างๆ ได้หลายสิบแห่งทั่วประเทศ ขณะที่มีกองกำลังปิดล้อมคุมเชิงตัวจังหวัดจำนวนมาก แต่ยังไม่ลงมือบุกโจมตีเมืองเอกระดับจังหวัดอย่างจริงจัง
การควบคุมจุดผ่านแดนในจังหวัดเฮรัตและฟาราห์ทางตะวันตก คุนดุซทางเหนือ และกันดาฮาร์ทางใต้ จะทำให้ตอลิบานกอบโกยรายได้จากสินค้าเข้าออกได้อย่างมหาศาล รวมทั้งหายุทธปัจจัยและข้าวของจำเป็นต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
เมื่อวันอังคาร (13) ประธานาธิบดีอัชราฟ กอนี ของอัฟกานิสถาน เดินทางไปยังจังหวัดบาล์กฮ์เพื่อประเมินสถานการณ์ความมั่นคง หลังจากกลุ่มตอลิบานผลักดันกองกำลังของรัฐบาลล่าถอยออกจากอำเภอต่างๆ ในจังหวัดดังกล่าว โดยกอนี วัย 72 ปี ยืนยันกับประชาชนว่า จะจัดการตอลิบานและเข้ายึดพื้นที่ต่างๆ กลับคืนมาในไม่ช้า
ขณะที่เวลานี้ดูเหมือนรัฐบาลอัฟกานิสถานอ่อนกำลังลงอย่างชัดเจน ทางด้านอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ได้ออกมาตำหนิการตัดสินใจของทำเนียบขาวชุดปัจจุบันในการนำของประธานาธิบดีไบเดน ว่า การถอนทหารอเมริกันทั้งหมดเท่ากับปล่อยให้ตอลิบานไล่เข่นฆ่าพลเรือนชาวอัฟกัน
ทั้งนี้ คณะบริหารของบุชคือผู้เปิดฉากบุกอัฟกานิสถานในปี 2001 และโค่นล้มรัฐบาลตอลิบานที่เวลานั้นครองอำนาจอยู่ในกรุงคาบูล ภายหลังเหตุวินาศกรรมอเมริกาเมื่อวันที่ 11 กันยายน โดยฝีมือของกลุ่มอัลกออิดะห์ ซึ่งพักพิงอาศัยอยู่กับตอลิบานในอัฟกานิสถาน
ทว่า ในเวลาต่อมา บุชและบรรดาที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของเขา ถูกกล่าวหาว่า ประเมินสถานการณ์ในอัฟกานิสถานผิดพลาด จนทำให้กลุ่มตอลิบานฟื้นคืนชีพ
ที่กรุงวอชิงตันในวันพุธ (13) จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า ความสำเร็จในการขับไล่ตอลิบานขึ้นอยู่กับผู้นำอัฟกานิสถานเอง
ส่วนทางด้าน เบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมสหราชอาณาจักรบอกว่า ประเทศของเขาพร้อมทำงานร่วมกับตอลิบาน หากตอลิบานตกลงร่วมแบ่งปันอำนาจกับรัฐบาลอัฟกานิสถานและปฏิบัติตามบรรทัดฐานสากล การแสดงท่าทีเช่นนี้ของลอนดอน นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ตอกย้ำว่า รัฐบาลฝ่ายตะวันตกกำลังทบทวนปรับเปลี่ยนนโยบายต่ออัฟกานิสถานอย่างรวดเร็ว
(ที่มา : เอเอฟพี, เอพี, รอยเตอร์)