สหรัฐฯ ทิ้งฐานทัพอากาศบากรัม ของอัฟกานิสถาน หลังปักหลักอยู่ที่ฐานทัพแห่งนี้มานานเกือบ 20 ปี ปิดไฟและออกไปอย่างเงียบๆ ตอนกลางคืนโดยไม่ได้แจ้งให้ผู้บัญชาการรายใหม่ของฐานทัพทราบล่วงหน้า ในขณะที่ผู้บัญชาการจากกองทัพอัฟกานิสถานรายดังกล่าวเพิ่งทราบข่าวการตีจากของฝั่งอเมริกาในครั้งนี้ราว 2 ชั่วโมงหลังจากทหารสหรัฐฯ ขนข้าวขนของออกไปแล้ว
กองทัพสหรัฐฯ ยอมรับในวันอังคาร (6 ก.ค.) ไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่อัฟกานิสถานทราบเกี่ยวกับเวลาอันแน่ชัดที่ทหารจะทิ้งฐานทัพอากาศยุทธศาสตร์ "บากรัม" ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย แม้การถอนกำลังออกมาจากฐานทัพอากาศดังกล่าวของพวกเขาจะเป็นการเปิดช่องให้พวกหัวขโมยลอบเข้าไปภายใน
รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่กองทัพอัฟกานิสถานในนั้นรวมถึงนายพลซึ่งจะเข้ามารับหน้าที่ดูแลฐานทัพแห่งนี้ในอนาคต คร่ำครวญว่า พวกเขาไม่ได้รับบอกกล่าวล่วงหน้าว่ากองกำลังสหรัฐฯ จะถอนกำลังออกจากฐานทัพในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่แล้ว (2 ก.ค.)
อย่างไรก็ตาม จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน แก้ต่างว่า นักการเมืองระดับอาวุโสของอัฟกานิสถานและเจ้าหน้าที่ทหารได้รับการบอกกล่าวคร่าวๆ เกี่ยวกับการออกจากฐานทัพ 2 วันล่วงหน้าและมีการพาเดินสำรวจทั่วฐานทัพที่กว้างขวางแห่งนี้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางปฏิบัติการต่อต้านอัลกออิดะห์และตอลิบานตลอดช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ของสหรัฐฯ และพันธมิตร
"วันเวลาที่แน่ชัดไม่มีการเปิดเผย ในจุดประสงค์เพื่อความปลอดภัยของปฏิบัติการ" เคอร์บีระบุในถ้อยแถลง "โดยทั่วไปแล้วเรารู้สึกดีว่าที่ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวถูกปิดเป็นความลับที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
การถอนตัวของสหรัฐฯ ต้องเป็นไปอย่างปลอดภัยและเป็นระเบียบเรียบร้อย เคอร์บีระบุ พร้อมชี้ถึงภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องของพวกตอลิบานที่มีต่อกองกำลังสหรัฐฯ "ผมไม่สามารถบอกได้ว่าฝ่ายอัฟกันตีความการตัดสินใจครั้งนี้อย่างไร" เขากล่าว หลังถูกถามว่าการถอนกำลังครั้งนี้อาจเป็นการแสดงถึงความไม่ไว้ใจกันระหว่างกองกำลังพันธมิตรสหรัฐฯ ในประเทศแห่งนี้ใช่หรือไม่
"มันไม่ได้เป็นการประกาศว่าเราไว้ใจหรือไม่ไว้ใจพันธมิตรอัฟกานิสถานของเรา มันเป็นคำบรรยายข้อเท็จจริงที่ว่า เราจำเป็นต้องพิจารณาว่าการถอนตัวครั้งนี้อาจถูกท้าทายจากพวกตอลิบาน และเราจำเป็นต้องนำข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาด้วย" เคอร์บี ระบุ "มันเป็นการส่งมอบคืนเหมือนๆ กับการส่งมอบคืนฐานทัพ 6 แห่งก่อนหน้านี้"
สหรัฐฯ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในการถอนทหารหลายพันนายและพลเรือนสัญญาจ้าง นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกคำสั่งให้พวกเขาถอนกำลังออกมาในเดือนเมษายน โดยวางกรอบเส้นตายไว้ในเดือนกันยายน
ในวันอังคาร (6 ก.ค.) กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ซึ่งดูแลปฏิบัติการในอัฟกานิสถาน เปิดเผยว่า การถอนกำลังเสร็จสิ้นไปแล้วมากกว่า 90%
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน นายพลมีร์ อาซาอัลเลาะห์ โคฮิสตานี ผู้บัญชาการคนใหม่ของฐานทัพบากรัม คร่ำครวญว่าพวกเขาไม่ได้รับบอกกล่าวล่วงหน้าเกี่ยวกับการถอนกำลังของสหรัฐฯ ออกจากฐานทัพบากรัม "เราได้ยินข่าวลือมาบ้างว่าอเมริกันจะออกจากบากรัม และที่สุดแล้วตอน 7 โมงเช้า มีคำยืนยันว่าพวกเขาออกจากฐานทัพบากรัมไปแล้ว"
พันเอกซอนนี เลกเกตต์ โฆษกของกองทัพสหรัฐฯ ไม่ได้ถูกอย่างเจาะจงถึงเสียงคร่ำครวญของทหารอัฟกานิสถานที่ต้องเข้ารับช่วงต่อฐานทัพอากาศดังกล่าว แต่เลือกที่จะพาดพิงถึงถ้อยแถลงหนึ่งซึ่งเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วแทน
โฆษกรายนี้ระบุว่า สหรัฐฯ อยู่ในกระบวนการส่งมอบคืนฐานทัพหลายแห่ง ไม่นานหลังจากประธานาธิบดีไบเดน แถลงเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายน ว่าอเมริกากำลังถอนกำลังชุดสุดท้ายออกมา เลกเกตต์ระบุในถ้อยแถลงว่าสหรัฐฯ จะประสานงานการถอนกำลังกับบรรดาผู้นำของอัฟกานิสถาน
รายงานข่าวระบุก่อนหน้าที่กองทัพอัฟกานิสถานจะเข้าควบคุมฐานทัพอากาศแห่งนี้ ซึ่งใช้เวลาขับรถจากกรุงคาบูลไปราวๆ 1 ชั่วโมง มันถูกบุกรุกโดยพวกหัวขโมยกลุ่มเล็กๆ ลุยค้นโรงทหารโรงแล้วโรงเล่า รื้อค้นเต็นท์จัดเก็บขนาดใหญ่ ก่อนถูกขับไล่ออกไป
โคฮิสตานี ยืนกรานว่า กองกำลังป้องกันตนเองและความมั่นคงแห่งชาติอัฟกานิสถาน จะรักษาฐานทัพแห่งนี้ที่มีป้อมปราการหนาแน่นไว้ให้ได้ แม้ตอลิบานเป็นฝ่ายมีชัยในหลายสมรภูมิ ในขณะที่ฐานทัพแห่งนี้ยังรวมไปถึงคุกแห่งหนึ่งซึ่งมีนักโทษราว 5,000 คน จำนวนมากเชื่อว่าเป็นนักรบตอลิบาน
การฟื้นคืนชีพล่าสุดของพวกตอลิบานมีขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ และนาโต้กำลังถอนทหารชุดสุดท้ายออกจากประเทศแห่งนี้ โดยจนถึงสัปดาห์ที่แล้ว ทหารนาโต้เกือบทั้งหมดได้ถอนกำลังออกไปอย่างเงียบๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนทหารสหรัฐฯ ชุดสุดท้ายคาดหมายว่าจะปักหลักอยู่ในอัฟกานิสถานต่อไปจนกว่าข้อตกลงหนึ่งในการปกป้องสนามบินนานาชาติอาคาบูล ฮามิด คาร์ไซ จะเสร็จสมบูรณ์
ทั้งนี้ คาดกันว่าตุรกีจะเป็นผู้ดำเนินการในข้อตกลงดังกล่าว พวกเขาจะรับหน้าที่ดูแลความปลอดภัยแก่ท่าอากาศยานแห่งนี้ต่อจากนาโต้ โดยใช้กองกำลังที่มีอยู่ในอัฟกานิสถาน
โคฮิสตานี เผยว่า สหรัฐฯ ทิ้งข้าวของและอุปกรณ์ต่างๆ ไว้กว่า 3.5 ล้านชิ้น ในนั้นรวมถึงน้ำขวดหลายหมื่นขวด เครื่องดื่มชูกำลัง โทรศัพท์และอาหารพร้อมรับประทาน หรือที่เรียกว่า MRE
นอกจากนี้แล้ว ยังมีรายการข้าวของขนาดใหญ่ถูกทิ้งไว้เช่นกัน ในนั้นรวมถึงยานยนต์พลเรือนหลายพันคน ส่วนใหญ่ไม่มีกุญแจสตาร์ท และยานยนต์หุ้มเกราะหลายร้อยคัน ขณะเดียวกัน โคฮิสตานี เผยด้วยว่าสหรัฐฯ ยังทิ้งอาวุธขนาดเล็กและกระสุนเอาไว้ แต่ดูเหมือนทหารที่ถอนกำลังไปจะเอาอาวุธหนักติดตัวไปด้วย
อย่างไรก็ตาม กระสุนสำหรับอาวุธนั้นไม่ได้ถูกทิ้งเพื่อให้ทหารอัฟกานิสถานใช้งาน เนื่องจากมันถูกกองกำลังสหรัฐฯ ระเบิดทำลายทำให้มันอยู่ในสภาพเสียหายก่อนถอนตัวออกไป
ภายในเวลา 20 นาทีหลังจากทหารสหรัฐฯ ถอนตัวออกไปอย่างเงียบๆ เมื่อวันศุกร์ (2 ก.ค.) ไฟถูกปิดและฐานทัพดำดิ่งสู่ความมืดมิด จากการเปิดเผยของทหารอัฟกานิสถานรายหนึ่ง พร้อมบอกว่าความมืดมิดที่เกิดขึ้นกะทันหันดูเหมือนเป็นการส่งสัญญาณถึงพวกหัวขโมย คนเหล่านั้นลอบเข้าไปในฐานทัพจากทางเหนือ ฝ่าแนวรั้วแรก ปล้นสะดมอาคารต่างๆ ขนข้าวของทุกอย่างที่พอจะหยิบฉวยได้ขึ้นรถกระบะหลบหนีไป
ในวันจันทร์ (5 ก.ค.) หรือ 3 วันหลังจากทหารสหรัฐฯ ถอนกำลัง ทหารอัฟกานิสถานยังคงเก็บชิ้นส่วนขยะ ในนั้นรวมถึงขวดน้ำ กระป๋องและขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ที่พวกหัวขโมยทิ้งเอาไว้
โคฮิสตานี กล่าวว่า เขารู้สึกซาบซึ้งในช่วงเวลาเกือบ 20 ปีที่สหรัฐฯ และนาโต้เข้ามาพัวพันในอัฟกานิสถาน แต่ตอนนี้มันถึงเวลาที่อัฟกานิสถานต้องลุกขึ้นสู้ด้วยตนเอง "เราจำเป็นต้องแก้ปัญหาของเราเอง เราจำเป็นต้องคุ้มกันประเทศของเรา และสร้างประเทศของเราอีกครั้งด้วยมือของเราเอง"
(ที่มา : เอพี/เอเอฟพี)
