สหรัฐฯ กำลังทบทวนความจำเป็นของการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ในหมู่ประชาชนที่ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครบ 2 เข็มแล้ว แต่ระบุต้องดูข้อมูลเพิ่มเติมว่าการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 จะเพิ่มความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงรุนแรงหรือไม่ จากความเห็นของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอเมริกาในวันอังคาร (13 ก.ค.)
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า เดิมทีการฉีดเข็มที่ 2 ของวัคซีน 2 เข็ม เกี่ยวข้องกับอัตราผลข้างเคียงระดับสูงอยู่ก่อนแล้ว และบ่งชี้มีความเป็นไปได้ที่การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 อาจเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก
"เราให้ความสนใจด้วยความกระตือรือร้นว่าวัคซีนเข็มที่ 3 จะเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงเกิดอาการไม่พึงประสงค์สูงขึ้นใดๆ หรือไม่ โดยเฉพาะผลข้างเคียงบางอย่างที่อาจรุนแรงขึ้น แม้เกิดขึ้นยากมากก็ตาม" เจย์ บัตเลอร์ รองผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวระหว่างแถลงข่าว
รัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่ตัดสินใจว่าจะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือไม่ แต่เล็งเห็นถึงความจำเป็นในคนชราและบุคคลกลุ่มอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้ออาการรุนแรง บัตเลอร์ กล่าว
ไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเทคมีแผนร้องขอคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า สำหรับขออนุมัติฉีดเข็มกระตุ้นวัคซีนโควิด-19 ของพวกเขา บนพื้นฐานที่ว่าพบความเสี่ยงติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นหลังฉีดวัคซีนไปแล้ว 6 เดือน และจากการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตา ที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมาก
อย่างไรก็ตาม บัตเลอร์ ระบุว่าเขายังไม่พบหลักฐานใดๆ ว่าประชาชนชาวสหรัฐฯ ที่ฉีดวัคซีนในเดือนธันวาคมหรือมกราคม กำลังมีภูมิคุ้มกันโควิด-19 ลดลง
บัตเลอร์ เน้นย้ำด้วยว่า วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันมอบประสิทธิภาพการปกป้องอย่างได้ผลในการรับมือกับตัวกลายพันธุ์เดลตา ที่พบครั้งแรกในอินเดีย และเวลานี้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในสหรัฐฯ
(ที่มา : รอยเตอร์)
