xs
xsm
sm
md
lg

มาเลย์ช็อก! จนท.ศูนย์วัคซีนกว่า 200 ติดโควิด ขณะคนฝรั่งเศสแห่จองยอมฉีดป้องกันหลัง ปธน.ยื่นคำขาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชาวมาเลเซียตามเมืองหลายแห่ง ใช้วิธี “ชักธงขาว” เพื่อขอความช่วยเหลือ ระหว่างที่ทางการเพิ่มมาตรการล็อกดาวน์ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19
มาเลเซียสั่งปิดศูนย์ฉีดวัคซีนแห่งหนึ่งเพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อ หลังพบเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกว่า 200 คนติดเชื้อโควิด-19 และทำให้ประชาชนที่ไปฉีดวัคซีนกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่ต้องกักตัว ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศพุ่งสูงถึง 11,079 คนในรอบ 24 ชั่วโมง ทำสถิตินิวไฮนับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด ทางด้านฝรั่งเศสแห่จองวัคซีนพรึ่บ หลัง “มาครง” ประกาศข้อจำกัดต่างๆ สำหรับผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน เช่น ต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 ก่อนเข้าร้านอาหาร

มาเลเซียที่กำลังเผชิญการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ “เดลตา” เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ และบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดมาตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน รายงานในวันอังคาร (13 ก.ค.) ว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนแห่งหนึ่งในรัฐสลังงอร์ ต้องปิดให้บริการชั่วคราว 1 วัน หลังพบเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร 204 คน จากทั้งหมด 453 คน ติดเชื้อโควิด-19

อย่างไรก็ดี ไครี จามาลุดดิน รัฐมนตรีที่รับผิดชอบโครงการเร่งรัดฉีดวัคซีน เผยว่า เจ้าหน้าที่ซึ่งติดเชื้อมีปริมาณเชื้อไวรัสในเลือดต่ำและไม่มีอาการรุนแรง โดยอาจเป็นเพราะส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนแล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยว่า เป็นวัคซีนตัวไหนจากทั้งหมดที่มาเลเซียอนุมัติให้ใช้ 3 ตัว ได้แก่ ไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวค

มาเลเซียเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนโดยการตั้งศูนย์ขนาดใหญ่หลายแห่ง และขณะนี้มีประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มราว 11% ของประชากรทั้งหมด ขณะเกือบ 25% ฉีดเข็มแรกแล้ว

ถึงแม้ใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดมาหลายสัปดาห์ แต่อัตราการติดเชื้อในมาเลเซียยังคงพุ่งสูง จำนวนเคสใหม่ที่รายงานในวันอังคารเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดอีกครั้งที่ 11,079 คน รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 855,000 คน และเสียชีวิตกว่า 6,200 คน

ส่วนที่เกาหลีใต้ แผนฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลุ่มอายุ 55-59 ปี ต้องเลื่อนออกไปหนึ่งสัปดาห์ หลังจากการระบาดระลอกใหม่ทำให้คนแห่จองฉีดวัคซีนจนเว็บไซต์ของรัฐบาลล่มเมื่อวันอังคาร วันเดียวกับที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 1,150 คน หรือเพิ่มขึ้นเกิน 1,000 คนติดกันเป็นวันที่ 7 และรัฐบาลเพิ่งบังคับใช้มาตรการจำกัดสูงสุดในกรุงโซลในวันจันทร์

แม้โครงการฉีดวัคซีนของเกาหลีใต้คืบหน้ากว่าที่วางแผนไว้ แต่ช่วงหลายสัปดาห์มานี้กลับฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้เพียง 30,000 โดสต่อวัน จากระดับสูงสุด 850,000 โดสต่อวัน และขณะนี้กำลังดำเนินการขั้นสุดท้ายเพื่อเริ่มฉีดวัคซีนโมเดอร์นาให้ประชาชนกลุ่มอายุ 50 ปี

ศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี (เคดีซีเอ) แถลงว่า วัคซีนโมเดอร์นา 1.85 ล้านโดสถูกจองเต็มแล้ว และจะเปิดให้ประชาชนจองคิวอีกครั้งในวันอังคารหน้า (19)

ปัจจุบัน มีชาวเกาหลีใต้ 11.6% จากทั้งหมด 52 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และ 30.4% ฉีดแล้ว 1 เข็ม

วันอังคารเช่นกัน ออสเตรเลียรายงานข่าวพบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นในซิดนีย์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดล่าสุด ลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 83 คน จาก 112 คนที่รายงานในวันจันทร์

อย่างไรก็ตาม เกลดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์เตือนไม่ให้ชาวซิดนีย์ชะล่าใจ เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่งลดลงวันเดียว และมีแนวโน้มว่า ตัวเลขจะยังขึ้นลงตลอดเวลา

นอกจากนั้น ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตอีก 1 คน เป็นชายวัย 70 ปี และนับเป็นผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 คนที่ 2 ในรอบปีนี้

เบเรจิกเลียน เสริมว่า การตัดสินใจว่าจะต่อเวลามาตรการล็อกดาวน์ซิดนีย์ที่จะสิ้นสุดวันศุกร์นี้ (16) หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่ามีผู้ที่ไม่ได้กักตัวระหว่างติดเชื้อมากน้อยแค่ไหน

สำหรับที่ฝรั่งเศส ด็อกโตลิบ เว็บไซต์หลักที่รับจองฉีดวัคซีนของแดนน้ำหอมเปิดเผยวันอังคารว่า จำนวนการเข้าสู่เว็บทำสถิติสูงสุด และมีผู้จองคิวฉีดวัคซีนนาทีละ 20,000 คน รวมขณะนี้มีทั้งหมด 926,000 คน ซึ่ง 65% เป็นกลุ่มประชากรอายุต่ำกว่า 35 ปี

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ปราศรัยถ่ายทอดทางทีวีเมื่อคืนวันจันทร์ (12) ว่า นับจากเดือนสิงหาคม ผู้ที่ต้องการเข้าร้านอาหาร-เครื่องดื่ม นั่งรถไฟทางไกล เข้าห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ โรงละคร เข้าชมงานเทศกาลต้องแสดง “บัตรผ่านสุขภาพ” ซึ่งหมายถึงหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ ทั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์รับมือการระบาดของสายพันธุ์เดลตา

ขณะเดียวกัน การตรวจเชื้อโควิด-19 ซึ่งให้บริการฟรีอยู่ในตอนนี้ก็จะเริ่มคิดค่าใช้จ่ายตั้งแต่เดือน ก.ย.เป็นต้นไป “เพื่อสนับสนุนการฉีดวัคซีน แทนที่จะต้องมาตรวจกันหลายครั้ง” มาครง กล่าว

มาครงยังประกาศให้บุคลากรทางการแพทย์ พนักงานสถานพักฟื้นคนชรา และผู้ที่ทำงานกับกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดต้องรับการฉีดวัคซีนนับจากเดือนกันยายน โดยที่ โอลิวิเยร์ เวอราน รัฐมนตรีสาธารณสุขสำทับว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ไม่ฉีดวัคซีนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน และไม่ได้รับเงินค่าจ้างอีกด้วย

ขณะนี้มีชาวฝรั่งเศสราว 35.5 ล้านคน หรือครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมดฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม ขณะที่ 27 ล้านคนฉีดครบ 2 เข็ม

เมื่อวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีคิรีอาคอส มิตโซเตกิสของกรีซ เผยว่า กำลังพิจารณาบังคับให้บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งรวมถึงพนักงานสถานพักฟื้นคนชรา ฉีดวัคซีนเช่นเดียวกัน

ล่าสุด มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มเพียง 4.3 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 10.7 ล้านคน

(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)






กำลังโหลดความคิดเห็น