รัฐบาลญี่ปุ่นเสนอแนวคิดจัด “โตเกียวโอลิมปิก” แบบไร้ผู้เข้าชมในสนาม ท่ามกลางความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขได้เตือนนานหลายสัปดาห์แล้วว่า การไม่อนุญาตให้มีผู้ชมภายในสนามโอลิมปิกซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 23 ก.ค. คือทางเลือกที่ “เสี่ยงน้อยที่สุด” สำหรับญี่ปุ่น
ก่อนหน้านี้ คณะผู้จัดโอลิมปิกได้ประกาศห้ามแฟนกีฬาต่างชาติเข้าชมการแข่งขัน และจะจำกัดผู้ชมในญี่ปุ่นเพียงไม่เกิน 50% ของความจุสนาม สูงสุดไม่เกิน 10,000 คน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19
หนังสือพิมพ์ไมนิจิชิมบุนรายงานวันนี้ (7 ก.ค.) ว่า แนวคิดห้ามมีผู้เข้าชมในสนามถูกฝ่ายการเมืองนำมาพิจารณาอย่างจริงจัง หลังจากที่พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของนายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูงะ ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในศึกเลือกตั้งสภากรุงโตเกียวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (4) ซึ่งนับเป็นลางร้ายก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ว่าประชาชนจำนวนหนึ่งกำลังไม่พอใจมาตรการตอบสนองโควิด-19 ของรัฐบาล
ล่าสุด คณะกรรมการจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก 2020 ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานของไมนิจิ โดยระบุว่า ข้อจำกัดเรื่องจำนวนผู้ชมจะขึ้นอยู่กับประกาศภาวะฉุกเฉินหรือมาตรการควบคุมอื่นๆ ที่บังคับใช้หลังวันที่ 12 ก.ค.
แหล่งข่าวในรัฐบาลญี่ปุ่นเผยความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอาจจะขยายภาวะกึ่งฉุกเฉิน (quasi-emergency) ในกรุงโตเกียวและอีก 3 จังหวัดใกล้เคียงต่อไปอีก หลังคำสั่งปัจจุบันสิ้นอายุลงในวันที่ 11 ก.ค. ขณะที่สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า มาตรการดังกล่าวอาจถูกต่ออายุไปอีก 1 เดือน ซึ่งก็หมายความว่ามันจะมีผลบังคับไปตลอดการแข่งขันโอลิมปิกซึ่งจะปิดฉากในวันที่ 8 ส.ค.
ล่าสุด คณะผู้จัดงานยังประกาศขอความร่วมมือประชาชนงดรวมตัวกันริมถนนระหว่างการแข่งวิ่งมาราธอน ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโอลิมปิก ขณะที่ฝ่ายบริหารกรุงโตเกียวก็ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกในช่วงสุดท้ายให้หลีกเลี่ยงถนนสาธารณะในเมืองหลวง เพื่อลดความเสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19
แม้สถานการณ์โควิด-19 ในญี่ปุ่นจะไม่หนักหนาสาหัสเหมือนอีกหลายประเทศ แต่ก็มียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 800,000 คน เสียชีวิตราว 14,800 คน และเพิ่งมีประชากรราว 1 ใน 4 เท่านั้นที่ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส
ที่มา : รอยเตอร์