xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ย้ำวัคซีน mRNA มีประโยชน์เหนือความเสี่ยง หลังพบกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบแล้ว 1,200 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประโยชน์ของวัคซีนโควิด-19 เทคโนโลยี mRNA มีมากกว่าความเสี่ยงต่างๆ อย่างชัดเจน แม้ภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับหัวใจถูกพบในผู้รับวัคซีนคนหนุ่มในจำนวนเล็กน้อยมาก จากคำยืนยันของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ในวันอังคาร (6 ก.ค.)

ซีดีซีระบุในรายงานการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตรายสัปดาห์ที่เผยแพร่ในวันอังคาร (6 ก.ค.) พบเคสของอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis) ราวๆ 1,200 ราย ในประชาชนที่ฉีดวัคซีน mRNA แต่ด้วยจนถึงวันที่ 11 มิถุนายน มีการฉีดวัคซีน mRNA ไปแล้วราวๆ 196 ล้านโดส ประโยชน์ของมันจึงพบเห็นอย่างชัดเจนในประชากรทุกกลุ่ม ในนั้นรวมถึงคนวัยเยาว์และคนหนุ่มสาว

วัคซีนที่ผลิตโดยโมเอร์นา อิงค์ และผลิตโดยไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค เป็นเพียงวัคซีนเทคโนโลยี mRNA เพียง 2 ตัวที่ได้รับอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯ

เสียงเน้นย้ำอีกครั้งของซีดีซีมีขึ้น หลังจากมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดผลข้างเคียงเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ อาจเสี่ยงให้อเมริกันชนคนหนุ่มสาวปฏิเสธเข้ารับวัคซีน ในขณะที่ตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่าย กำลังเล่นงานหลายพื้นที่ของประเทศที่มีอัตราคนเข้าฉีดวัคซีนในระดับต่ำ

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์ (2 ก.ค.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของแคนาดาก็เพิ่งออกคำแนะนำแก่ประชาชนที่จะเข้ารับวัคซีนโควิด-19 mRNA ว่าควรได้รับคำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นน้อยมากของอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ อันเนื่องมาจากการฉีดวัคซีน

คำแนะนำดังกล่าวมีผลกับวัคซีนเทคโนโลยี mRNA 2 ตัวที่ได้รับอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินในแคนาดา ประกอบด้วยของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นทค และโมเดอร์นา

คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านภูมิคุ้มกันแห่งชาติแคนาดา (National Advisory Committee on Immunization : NACI) แนะนำว่า ควรแจ้งข้อมูลเพื่อความยินยอมแก่บุคคลที่ประสงค์ฉีดวัคซีน mRNA ในนั้นรวมถึงการพูดคุยเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นน้อยมากของอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หลังฉีดวัคซีน

คำแนะนำระบุด้วยว่า ในมาตรการป้องกันไว้ก่อน บุคคลใดก็ตามที่มีอาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าวหลังจากรับวัคซีนโดสแรก ควรชะลอฉีดวัคซีนโดสที่ 2 ออกไปก่อน จนกว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติม

(ที่มา : บลูมเบิร์ก/ฮินดูสถานไทม์ส)


กำลังโหลดความคิดเห็น