ทางการจีนเมื่อวันจันทร์ (5 ก.ค.) เข้าตรวจสอบบริษัทแดนมังกรอีก 2 แห่งที่จดทะเบียนซื้อขายหุ้นในสหรัฐฯ โดยที่ 1 วันก่อนหน้าเพิ่งสั่งถอด ตีตี ชูสิง ยักษ์ใหญ่บริการเรียกรถแท็กซี่ ออกจากแอปสโตร์ โทษฐานเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้อย่างผิดกฎหมาย หลังจากบริษัทนี้ประสบความสำเร็จล้นหลามในการทำไอพีโอที่นิวยอร์กสัปดาห์ที่แล้ว
หน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์สเปซของจีน (ซีเอซี) เพิ่งออกคำสั่งเมื่อวันอาทิตย์ (4 ก.ค.) ถอดแอปฯ ของ ตีตี ยักษ์ใหญ่ไรด์เฮลลิ่งในเมืองจีนออกจากแอปสโตร์ ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังจาก ตีตี เสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนครั้งแรก (ไอพีโอ) ในตลาดนิวยอร์ก โดยสามารถระดมเงินทุนได้มากกว่า 4,400 ล้านดอลลาร์
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการตรวจสอบบริษัทเทคโนโลยีท้องถิ่นของปักกิ่ง โดยมุ่งเน้นที่พฤติกรรมกีดกันการแข่งขันและความมั่นคงด้านข้อมูล ซึ่งเริ่มต้นด้วยการสั่งระงับแผนการทำไอพีโอของแอนต์ กรุ๊ป บริษัทฟินเทคในเครืออาลีบาบาเมื่อปลายปีที่แล้ว
มาร์ติน ชอร์เซมปา นักวิชาการอาวุโสของสถาบันเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศปีเตอร์สัน มองว่า ทั้งการยกเลิกการทำไอพีโอของแอนต์ และการดำเนินการต่อตีตีในขณะนี้ แสดงให้เห็นว่าการทำไอพีโอทำท่าจะกลายเป็นอันตรายมากในจีน และเป็นการเชิญชวนให้ทางการเข้าตรวจสอบ
สำหรับประกาศล่าสุดเมื่อวันจันทร์ (5) ของซีเอซี เป็นเรื่องการเข้าสอบสวนบริษัทรับสมัครงานออนไลน์ จื่อปินดอตคอม และบริษัททรัคเฮลลิ่ง หั่วเชอปาง กับอิ้ว์นหม่านหม่าน ที่ผนวกกิจการกันกลายเป็น ฟูล ทรัค อัลไลแอนซ์ โดยบริษัทแม่ของจื่อปินดอตคอมคือ คันจุน และบริษัทแม่ของฟูล ทรัค อัลไลแอนซ์ ต่างเพิ่งเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของอเมริกาเมื่อเดือนที่แล้ว
ทั้งสามแพลตฟอร์มได้รับคำสั่งให้ระงับการจดทะเบียนผู้ใช้ใหม่ๆ เอาไว้ก่อน ในระหว่างการตรวจสอบของทางการที่มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคงต่อข้อมูลของประเทศ ปกป้องความมั่นคงของชาติและผลประโยชน์ของสาธารณชน
ฟูล ทรัค อัลไลแอนซ์ แถลงว่า พร้อมให้ความร่วมมือในการสอบสวนและแก้ไขปัญหาเพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบของทางการ ส่วนคันจุนยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ
เซนนอน แคปรอน ประธานบริษัทวิจัยและให้คำปรึกษา แคปรอนเอเชีย กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบตีตีและแอนต์ว่า เป็นสัญญาณชัดเจนว่าจีนกำลังใช้บริษัทเหล่านี้เตือนบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ
ทั้งนี้ ซีเอซีเองให้เหตุผลว่า สั่งให้แอปสโตร์ยุติการนำเสนอแอปฯ ของตีตี หลังจากพบว่าบริษัทแห่งนี้ที่มีผู้ใช้เกือบ 500 ล้านคน และคนขับ 15 ล้านคน เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้อย่างผิดกฎหมาย
ตีตีแถลงว่า คำสั่งนี้อาจส่งผลลบต่อรายได้ของบริษัทในจีน ทว่า นักวิเคราะห์แย้งว่าคำสั่งบอกให้งดจดทะเบียนผู้ใช้รายใหม่ ไม่ได้กระทบผู้ใช้ปัจจุบัน โดยที่ผู้ใช้ปัจจุบันของตีตีนั้นอยู่ในจีนเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่น่าส่งผลเสียหายมากมายต่อรายได้ในแดนมังกรของบริษัท
ทั้งนี้ นอกจากเป็นเจ้าตลาดบริการเรียกใช้รถยนต์ในจีนแล้ว ตีตียังให้บริการในอีก 15 ประเทศ
ตีตี ซึ่งบอกว่าเก็บข้อมูลจำนวนมากเพื่อวิจัยด้านเทคโนโลยีและวิเคราะห์การเดินทาง ระบุในคำแถลงของตนด้วยว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นพร้อมแก้ไขปัญหาและปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ตลอดจนปกป้องความปลอดภัยของข้อมูล
ในอีกด้านหนึ่ง แหล่งข่าวเปิดเผยต่อรอยเตอร์ว่า ในเดือนที่ผ่านมาตีตีได้ถูกสำนักงานบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐ ตรวจสอบกรณีการผูกขาดตลาดด้วย
ทางด้านโกลบัล ไทมส์ แทบลอยด์ของพีเพิลส์ เดลี ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เผยแพร่บทความชิ้นหนึ่งเมื่อวันจันทร์ ที่แสดงความคิดเห็นว่าความสามารถในการวิเคราะบิ๊กดาต้าของตีตี อาจสร้างความเสี่ยงให้แก่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้
บทความดังกล่าวสำทับว่า รัฐบาลต้องไม่ปล่อยให้บริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่กลายเป็นฐานข้อมูลขนาดยักษ์ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนมากกว่าที่รัฐบาลจัดเก็บ และบริษัทเหล่านั้นต้องไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ข้อมูลดังกล่าวตามความปรารถนาของพวกเขา
ทั้งนี้ ข่าวการตรวจสอบของซีเอซีได้ฉุดราคาหุ้นตีตีร่วงลง 5% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2) ทำให้มูลค่าตลาดรวมของหุ้นตัวนี้ลดลงอยู่ที่ 75,000 ล้านดอลลาร์
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)
