ประชากรออสเตรเลียราว 10 ล้านคนตกอยู่ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์ หลังจากที่ ‘บริสเบน’ เมืองเอกของรัฐควีนส์แลนด์ กลายเป็นเมืองใหญ่แห่งที่ 4 ของประเทศที่มีคำสั่งให้พลเมืองเก็บตัวอยู่แต่ในที่พักอาศัยเพื่อยับยั้งการระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ ‘เดลตา’ ซึ่งขณะนี้พบผู้ป่วยกระจายอยู่ในหลายภูมิภาคทั่วประเทศ
ทางการนครบริสเบนได้ประกาศมาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 3 วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ (29 มิ.ย.) ตามหลังคำสั่งล็อกดาวน์ที่ได้ประกาศไปแล้วก่อนหน้าที่ซิดนีย์, เพิร์ท และดาร์วิน
อันนาสตาเซีย พาลัสซัค นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐควีนส์แลนด์ ยอมรับว่า “นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก” พร้อมระบุว่า “สาเหตุที่เมืองใหญ่ๆ หลายแห่งต้องฟื้นคำสั่งล็อกดาวน์ก็เนื่องจากมีผู้เดินทางจากต่างประเทศนำเชื้อไวรัสกลับมาแพร่”
พื้นที่ชายฝั่งรอบๆ บริสเบน รวมถึงเมืองทาวน์สวิลล์ (Townsville) ทางตอนเหนือก็อยู่ในข่ายถูกล็อกดาวน์ด้วยเช่นกัน หลังมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลซึ่งยังไม่ได้ฉีดวัคซีนรายหนึ่งติดเชื้อโควิด-19 และได้ตระเวนเดินทางไปทั่วรัฐควีนส์แลนด์เป็นเวลาถึง 10 วัน
ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมคลัสเตอร์โควิด-19 แต่ล่าสุดสถานการณ์เริ่มน่าเป็นห่วง หลังมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาซึ่งพบครั้งแรกในอินเดียและสามารถแพร่กระจายได้เร็วในหลายเมืองทั่วประเทศ
มาตรการล็อกดาวน์ในเมืองเพิร์ทเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันจันทร์ (29) และจะใช้ไปอีกอย่างน้อย 4 วัน หลังมีการพบผู้ติดเชื้อในชุมชน 3 ราย
“เราทราบดีว่าโควิด-19 อันตรายแค่ไหน และเรารู้ข่าวจากทั่วโลกว่าเชื้อสายพันธุ์เดลตากำลังเป็นวายร้ายตัวใหม่ที่เราจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด” มาร์ก แมคโกแวน นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ระบุในการแถลงข่าวเมื่อค่ำวันจันทร์ (28)
นครซิดนีย์ได้ประกาศล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังพบผู้ติดเชื้อแล้วถึง 150 คน โดยเชื่อมโยงกับพนักงานขับรถรับส่งลูกเรือของเที่ยวบินระหว่างประเทศรายหนึ่งที่มีผลตรวจโควิดเป็นบวกเมื่อช่วงกลางเดือน มิ.ย.
ขณะเดียวกัน ที่เมืองดาร์วินก็ได้มีการประกาศล็อกดาวน์เป็นเวลา 48 ชั่วโมง หลังพบคลัสเตอร์ขนาดเล็กที่เชื่อมโยงกับเหมืองทองคำแห่งหนึ่งในพื้นที่ห่างไกล โดยเมืองแห่งนี้มีประชากรชนพื้นเมืองอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเกรงกันว่าอาจเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19
นายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริสัน แห่งออสเตรเลีย ประกาศล่าสุดว่าจะต้องมีการบังคับฉีดวัคซีนให้แก่พนักงานที่ดูแลผู้สูงอายุหรือโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวผู้เดินทาง ขณะที่ประชาชนที่อายุต่ำกว่า 60 ปีหากประสงค์จะรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จะต้องเซ็นหนังสือยกเว้นความรับผิดของบริษัทผู้ผลิต (indemnity form) ในกรณีเกิดผลข้างเคียงรุนแรงจากการฉีดวัคซีน
ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อโควิดสะสมเพียง 30,000 คนเศษ และมีผู้เสียชีวิต 910 คน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 25 ล้านคน นับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดเมื่อต้นปีที่แล้ว
ที่มา : เอเอฟพี