‘ไบเดน’ ลั่นหากยังเป็น ปธน.สหรัฐฯ จะไม่ยอมให้ ‘อิหร่าน’ ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ยืนยันกับประธานาธิบดี ริวเวน ริฟลิน แห่งอิสราเอลวานนี้ (28 มิ.ย.) ว่า พันธกรณีที่สหรัฐฯ มีต่ออิสราเอลนั้นเข้มแข็งมั่นคงประดุจเหล็ก และตราบใดที่ตนยังเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะไม่ปล่อยให้ “อิหร่าน” ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์

ไบเดนกล่าวด้วยว่า ตนรอคอยที่จะได้พบปะกับ นาฟตาลี เบนเน็ตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอลคนใหม่เร็วๆ นี้

“พันธกรณีที่ผมมีต่ออิสราเอลนั้นเข้มแข็งประดุจเหล็ก” ไบเดนกล่าวขณะหารือร่วมกับ ริฟลิน ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว โดยทั้งสองได้มีการพูดคุยกันในหลายประเด็น รวมถึงปัญหาอิหร่านด้วย

“ผมยืนยันกับคุณได้ว่า อิหร่านจะไม่มีโอกาสครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ตราบใดที่ผมยังอยู่” ไบเดนระบุ

เบนเน็ตต์ก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ อิสราเอลคนใหม่แทนที่ เบนจามิน เนทันยาฮู และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เองก็อยู่ระหว่างเตรียมการพบปะระหว่างผู้นำทั้ง 2 ชาติภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

“ท่าน (ไบเดน) จะเชิญนายกรัฐมนตรีอิสราเอลมาที่นี่ในเร็วๆ นี้ เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางในวันข้างหน้า และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน” ริฟลินให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นการหารือ

อิสราเอลและบรรดาชาติอาหรับต่างวิตกกังวลที่สหรัฐฯ มีท่าทีจะกลับเข้าร่วมข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 เพราะเกรงกันว่าข้อตกลงฉบับนี้สุดท้ายแล้วอาจมีช่องโหว่จนทำให้อิหร่านสามารถครอบครองอาวุธทำลายล้างสูง ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามทางทหารอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศเพื่อนบ้าน

รัฐบาลไบเดนแสดงเจตนารมณ์ที่จะฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์ หลังจากที่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้นำสหรัฐฯ ถอนตัวออกไปฝ่ายเดียวเมื่อปี 2018 อย่างไรก็ตาม กระบวนการเจรจาเป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องจากฝ่ายอิหร่านตั้งเงื่อนไขให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดเสียก่อน

แหล่งข่าวใกล้ชิดออกมาคาดหมายว่าไบเดนคงจะรับปากริฟลินว่าสหรัฐฯ และอิสราเอลต่างมีเป้าหมายร่วมกันที่ว่าอิหร่านไม่มีสิทธิ์พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และสหรัฐฯ พร้อมที่จะสนับสนุนสิทธิ์ของอิสราเอลในการป้องกันตนเองอย่างเต็มที่

ที่มา : รอยเตอร์