จอห์น แมคคาฟี ผู้บุกเบิกซอฟต์แวร์ต่อต้านไวรัส แขวนคอตายในห้องขัง หลังศาลสเปนอนุมัติการส่งตัวข้ามแดนให้อเมริกาดำเนินคดีข้อหาหนีภาษีและฉ้อโกง
โฆษกสำนักงานราชทัณฑ์แคว้นกาตาลุญญาทางตอนเหนือของสเปน แถลงยืนยันว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำพบแมคคาฟี วัย 75 ปี เสียชีวิตในห้องขังเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันพุธ (23 มิ.ย.)
ขณะเดียวกัน ฌาเวียร์ วิลลัลบา ทนายความของแมคคาฟี ยืนยันเช่นเดียวกันว่า ลูกความเสียชีวิตจากการแขวนคอตายในห้องขัง เนื่องจากท้อแท้สิ้นหวังหลังถูกจำคุกมานาน 9 เดือน
แมคคาฟีถูกจำคุกในสเปนนับจากถูกจับกุมที่สนามบินเมืองบาร์เซโลนาในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ขณะรอขึ้นเครื่องไปยังเมืองอิสตันบุล ตุรกี
แมคคาฟีถูกทางการสหรัฐฯ กล่าวหาเจตนาไม่ยื่นรายการเสียภาษีเงินได้ระหว่างปี 2014-2018 แม้มีรายได้นับล้านดอลลาร์จากการให้คำปรึกษา การเทรดคริปโต และการขายสิทธิประวัติชีวิตของตนเอง ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง เขาจะถูกจำคุก 30 ปี
กระทรวงยุติธรรมกาตาลุญญาแถลงเพียงว่า ได้เปิดการสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของแมคคาฟีแล้ว
ก่อนหน้านั้นในช่วงกลางวันของวันพุธ ศาลสเปนได้อนุมัติให้ส่งตัวแมคคาฟีกลับไปดำเนินคดีในอเมริกา ซึ่งตามขั้นตอนนั้นเขายังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ นอกจากนั้น การส่งผู้ร้ายข้ามแดนยังต้องได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีสเปน
ตามคำร้องขอส่งตัวของอเมริกาเมื่อเดือนพฤศจิกายนนั้น แมคคาฟีมีรายได้ 12 ล้านดอลลาร์ระหว่างปี 2014-2018 แต่กลับไม่เคยยื่นรายการเพื่อเสียภาษี และใช้วิธีนำรายได้ส่วนหนึ่งไปจ่ายให้บุคคลอื่นๆ รวมทั้งโอนอสังหาริมทรัพย์เป็นชื่อของบุคคลเหล่านั้น
นับจากร่ำรวยขึ้นมาในทศวรรษ 1980 จากการบุกเบิกซอฟต์แวร์ต่อต้านไวรัสโดยใช้ชื่อตนเองเป็นชื่อแบรนด์และยังคงได้รับความนิยมมาจนบัดนี้ แมคคาฟีผันตัวเป็นกูรูด้านคริปโตและอวดอ้างว่าทำรายได้วันละ 2,000 ดอลลาร์
แมคคาฟีก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ในปี 1987 และบริหารอยู่นาน 7 ปีก่อนลาออก โดยในปี 2010 อินเทลเข้าซื้อกิจการบริษัทแห่งนี้
เขากลายเป็นข่าวดังอยู่เป็นระยะจากการพัวพันกับยาเสพติด อาวุธ กระทั่งการฆาตกรรม
แมคคาฟีมีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคนในทวิตเตอร์ ซึ่งเขาบรรยายตัวเองว่า เป็นนักรัก โปรดปรานการผจญภัยและเรื่องลึกลับ
ในทวิตเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา เขาบอกว่า ทางการสหรัฐฯ เชื่อว่า เขา “ซุกคริปโต” ซึ่งเขาก็อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะทรัพย์สินที่เหลือทั้งหมดถูกอายัด เพื่อนก็ไม่กล้าคบ แต่ถึงไม่เหลืออะไรเขาก็ไม่เคยเสียดาย
เจนิซ ภรรยาของแมคคาฟีร้องเรียนมานานแล้วว่า สามีของตนมีความเป็นอยู่ไม่ค่อยดีนักในคุก และมักได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมช้ามาก
ในวันอาทิตย์ (20) เธอทวิตว่า รัฐบาลอเมริกาต้องการให้แมคคาฟีตายในคุก และเธอหมดหวังว่า จะมีการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมในสหรัฐฯ ขณะที่สื่อยังคงใส่ร้ายป้ายสีแมคคาฟีไม่หยุดหย่อน
ผู้บุกเบิกวงการซอฟต์แวร์ต่อต้านไวรัสผู้นี้ถูกตั้งข้อหาหนีภาษีในรัฐเทนเนสซี และฉ้อโกงคริปโตในรัฐนิวยอร์ก เขาหลบหนีการจับกุมของอเมริกามานานหลายปี ระหว่างนั้นบางครั้งเขาใช้เวลาบนเรือยอชต์หรูหรากับภรรยา สุนัขพันธุ์ใหญ่ 4 ตัว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คน และพนักงานอีก 7 คน
นอกจากนั้น แมคคาฟีตกเป็นข่าวใหญ่หลังย้ายไปเบลีซ ประเทศในอเมริกากลาง และเพื่อนบ้านคนหนึ่งถูกฆ่าตายปริศนาในปี 2012 ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังปิดคดีไม่ได้
ตำรวจเบลีซต้องการซักถามแมคคาฟีในฐานะบุคคลที่น่าจับตา ขณะที่เจ้าตัวอ้างว่า ไม่ได้อยู่ใกล้เหยื่อในคืนที่เกิดเหตุฆาตกรรม
อย่างไรก็ตาม แมคคาฟีหายตัวไป หลังจากที่ตำรวจพบเขาอยู่กับเด็กสาววัย 17 ปี และพบอาวุธจำนวนมากในบ้านพัก
ในเวลาต่อมา ครอบครัวเพื่อนบ้านที่เสียชีวิตฟ้องแมคคาฟีว่า เป็นต้นเหตุทำให้เหยื่อเสียชีวิตโดยมิชอบ ซึ่งในปี 2019 ศาลฟลอริดาสั่งให้เขาจ่ายเงินให้ครอบครัวนี้กว่า 25 ล้านดอลลาร์
แมคคาฟีที่เกิดในอังกฤษและเคยเป็นโปรแกรมเมอร์ของนาซา ยังเคยถูกจับกุมในอเมริกาเมื่อปี 2015 ในข้อหาขับรถขณะมึนเมา และปีต่อมาเขาลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยชูจุดยืนทางการเมืองในการยกระดับการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ของจีนและรัสเซีย รวมทั้งยุติการทำสงครามต่อต้านยาเสพติด
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี)
