รัสเซียเปิดเผยเมื่อวันพุธ (23 มิ.ย.) ได้ยิงเตือนและทิ้งระเบิดขวางเส้นทางของเรือรบสหราชออาณาจักรลำหนึ่ง ในปฏิบัติการไล่ล่าตะเพิดเรือรบลำดังกล่าวพ้นจากน่านน้ำที่ทางมอสโกอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลดำนอกชายฝั่งแหลมไครเมีย
ไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีเครื่องบินและเรือของรัสเซียมากน้อยแค่ไหนที่ถูกระดมในปฏิบัติการนี้ แต่ทางสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานอ้างว่า มีอากาศยานรัสเซียมากกว่า 20 ลำ และเรือชายฝั่ง 2 ลำ ที่ไล่ล่าเรือรบของสหราชอาณาจักรที่กำลังล่องใกล้ไครเมีย
สหราชอาณาจักรปฏิเสธคำกล่าวอ้างของรัสเซียเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ระบุเชื่อว่า การยิงใดๆ เกิดจากการซ้อมยิงของรัสเซียที่ประกาศแจ้งล่วงหน้าแล้วและไม่มีการทิ้งระเบิด พร้อมยอมรับเรือพิฆาตเอชเอ็มเอส ดีเฟนเดอร์ ได้ล่องผ่านละแวกดังกล่าวจริง ทว่าน่านน้ำที่ล่องผ่านนั้นเป็นของยูเครน
“เรือกำลังล่องผ่านน่านน้ำอาณาเขตของยูเครนด้วยความบริสุทธิ์ใจและเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ” กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรระบุในถ้อยแถลง ขณะที่โฆษกของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน เสริมว่า "มันไม่ถูกต้อง ที่บอกว่ามันถูกยิงใส่หรือเรืออยู่ในน่านน้ำรัสเซีย”
ผู้สื่อข่าวของบีบีซี ที่ได้รับเชิญขึ้นไปบนเรือก่อนเหตุการณ์เกิดขึ้น อ้างว่า เห็นเครื่องบินรบบินเหนือศีรษะมากกว่า 20 ลำ และเรือยามชายฝั่งรัสเซีย อยู่ห่างออกไปแค่ 100 เมตร ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งคำกล่าวอ้างนี้สวนทางกับถ้อยแถลงจากสำนักนายกรัฐมนตรีอังกษและกระทรวงกลาโหม ที่ปฏิเสธว่าไม่มีการเผชิญหน้าใดๆ
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารระบุ ไม่ว่ารายละเอียดที่แท้จริงของเหตุการณ์จะเป็นไปตามคำกล่าวอ้างของฝ่ายไหน เหตุการณ์นี้ดูเหมือนจะเป็นตัวแทนของสถานการณ์การเผชิญหน้าที่ลุกลามบานปลายระหว่างตะวันตกและรัสเซียในข้อพิพาทเกี่ยวกับเส้นทางเดินเรือ
กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียเรียกการล่องผ่านน่านน้ำของเรือรบสหราชอาณาจักรว่าเป็นพฤติกรรมยั่วยุอย่างโจ่งแจ้งและเผยว่าจะเรียกเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรเข้าชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว
รัสเซียยึดและผนวกไครเมียมาจากยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2014 และมองว่า พื้นที่ต่างๆ แถวๆ ชายฝั่งของแหลมแห่งนี้เป็นน่านน้ำของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ทางตะวันตกยังมองไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน และปฏิเสธคำกล่าวของรัสเซียเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ทางทะเลรอบๆแหลมไครเมีย
ดมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครนระบุเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่านโยบายก้าวร้าวและยั่วยุของรัสเซียในทะเลดำและในทะเลอาซอฟที่อยู่ใกล้ๆ กัน เข้าองค์ประกอบของ “การข่มขู่คุกคามอย่างไม่ลดละต่อยูเครนและพันธมิตรของยูเครน” ทั้งนี้ คูเลบา ยังเขียนบนทวิตเตอร์เรียกร้องให้นาโต้และยูเครนยกระดับความร่วมมือมากยิ่งขึ้นในพื้นที่ทะเลดำ
ในสัปดาห์นี้ บรรดาชาติตะวันตกกำลังอยู่ระหว่างการซ้อมรบทางทะเลในทะเลดำ ที่ใช้ชื่อว่า “ซีบรีซ” โดยไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ สถานทูตรัสเซียในกรุงวอชิงตัน เรียกร้องสหรัฐฯและพันธมิตรยกเลิกการซ้อมรบดังกล่าว
เรือพิฆาตเอ็มเอส ดีเฟนเดอร์ เพิ่งเข้าเทียบท่าเมืองโอเดสซาของยูเครนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ สถานที่ที่สหราชอาณาจักรลงนามในข้อตกลงช่วยยกระดับกองทัพเรือยูเครน
สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์รายงานอ้างคำบอกเล่าของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า เรือพิฆาตของสหราชอาณาจักรล่องออกจากน่านน้ำของรัสเซียไม่นานหลังจากรัสเซียยิงเตือน และเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียลำหนึ่งได้หย่อนระเบิดแรงสูงสาดสะเก็ด 4 ลูก ในเส้นทางของเรือด้วย
กระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างด้วยว่าเรือของสหราชอาณาจักรล่องลึกเข้ามาในน่านน้ำรัสเซียถึง 3 กิโลเมตร ใกล้ๆ ฟิโอเลนต์ แหลมชื่อดังทางใต้ของไครเมีย ใกล้เมืองท่าเซวาสโตโพล ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการกองเรือทะเลดำแห่งกองทัพเรือรัสเซีย
“เรือพิฆาตได้รับการแจ้งเตือนว่าจะมีการใช้อาวุธหากว่ามันล่วงล้ำเขตแดนของสหพันธรัฐรัสเซีย แต่เรือพิฆาตไม่ขานรับต่อคำเตือนดังกล่าว” กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ
(ที่มา: รอยเตอร์/บีบีซี)