บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพจากเยอรมนี เคียวร์แว็ก เอ็นวี (CureVac NV) เผยวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่บริษัทพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเพียง 47% ในการทดลองระยะปลาย ซึ่งถือว่าไม่บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ และทำให้แผนการส่งมอบวัคซีนหลายร้อยล้านโดสให้แก่สหภาพยุโรป (อียู) ตกอยู่ในความไม่แน่นอน
ผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังดังกล่าวได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ป่วยโควิด 134 รายในการศึกษาทดลองซึ่งใช้อาสาสมัครราว 40,000 คน ทั้งในยุโรป และละตินอเมริกา
วัคซีนของเคียวร์แว็กถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่หลายประเทศในยุโรปตั้งความหวังเอาไว้ หลังจากที่วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตร้าเซนเนก้า มีรายงานผลข้างเคียงการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน จนต้องมีการจำกัดอายุสำหรับผู้ที่จะรับวัคซีนทั้ง 2 ชนิดนี้
เมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว สหภาพยุโรปได้ทำสัญญาสั่งซื้อวัคซีนจากเคียวร์แว็กสูงสุด 405 ล้านโดส โดยได้รับสิทธิสั่งเพิ่มอีก 180 ล้านโดส ขณะที่เยอรมนีได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อสั่งซื้อเพิ่มอีก 20 ล้านโดส
เคียวร์แว็ก อ้างผลการทดลองเบื้องต้นซึ่งพบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อได้ดีในกลุ่มอาสาสมัครทดลองที่อายุน้อย แต่ผลยังไม่เป็นที่น่าพอใจในกลุ่มทดลองที่อายุเกินกว่า 60 ปี ซึ่งถือเป็นประชากรกลุ่มเสี่ยงสูงที่อาจมีอาการป่วยรุนแรงหากติดเชื้อโควิด-19
ฟรานซ์-เวอร์เนอร์ ฮาส ซีอีโอของเคียวร์แว็ก ยอมรับว่า การจะพัฒนาวัคซีนที่ให้ผลครอบคลุมเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่บริษัทยังอยู่ระหว่างทำการวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย โดยจะใช้ข้อมูลจากผู้ป่วยโควิดเพิ่มอีก 80 คน ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ประสิทธิภาพโดยรวมเปลี่ยนแปลงไปอีกได้
ดร.อาเมช อาดัลจา ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากศูนย์ความมั่นคงด้านสุขภาพ มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ระบุว่า ยังอยากที่จะทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนเคียวร์แว็กในการป้องกันการติดเชื้อขั้นรุนแรง การเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และการเสียชีวิต
เคียวร์แว็ก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองทือบิงเงิน ได้คิดค้นพัฒนาวัคซีนแบบ mRNA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ไบโอเอ็นเทค/ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ใช้ในการผลิตวัคซีนซึ่งสามารถป้องกันอาการป่วยโควิด-19 ได้เกินกว่า 90%
ก่อนที่โลกจะมีวัคซีนซึ่งให้ประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 สูงกว่า 90% สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เคยกำหนดมาตรฐานประสิทธิภาพขั้นต่ำของวัคซีนโควิด-19 เอาไว้ที่ 50% ซึ่งวัคซีนของเคียวร์แว็กถือว่ายังไม่ผ่านเกณฑ์นี้ ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดประสิทธิภาพขั้นต่ำของวัคซีนว่าควรจะอยู่ที่ 70% ขึ้นไป
ที่มา : รอยเตอร์
