เมแกน มาร์เคิล “ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์” มีประสูติกาลทายาทองค์ที่ 2 เป็นพระธิดา ซึ่งเธอและเจ้าชายแฮร์รี พระสวามี ตั้งพระนามตามควีนเอลิซาเบธ และเจ้าหญิงไดอานา พระมารดาผู้ล่วงลับของเจ้าชาย
ลิลิเบ็ต ‘ลิลี่’ ไดอานา เมานต์แบตเท็น-วินด์เซอร์ ประสูติเมื่อวันศุกร์ (4 มิ.ย.) ที่โรงพยาบาลซานตา บาร์บารา คอตเทจ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีเจ้าชายแฮร์รี อยู่เคียงข้าง หลังจาก อาร์ชี ทายาทองค์แรกของทั้งสองพระองค์ ลืมตาดูโลกในปี 2019
ทั้งคู่เลือกตั้งชื่อพระธิดาตามสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เพื่อแสดงความขอบคุณควีน หลังเผชิญขวบปีที่ยากลำบาก โดย ลิลิเบ็ต เป็นชื่อเล่นของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระชนมายุ 95 พรรษา ส่วนชื่อกลาง ไดอานา มาจากพระมารดาของเจ้าชายแฮร์รี
พระราชวังบังกิงแฮมแถลงว่า พระราชินี เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ บิดาของเจ้าชายแฮร์รี และเจ้าชายวิลเลียม กับเจ้าหญิงเคท ต่างยินดีกับข่าวดีดังกล่าว ขณะที่ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ก็ร่วมแสดงความยินดีเช่นกัน
เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าหญิงเคท พระชายา เขียนผ่านบัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของทั้งสองพระองค์ว่า “เราทุกคนยินดีกับข่าวอันน่าปีติเกี่ยวกับการลืมตาดูโลกของทารกน้อยลิลี่ ขอแสดงความยินดีกับแฮร์รี เมแกน และอาร์ชี”
เมแกนและเจ้าชายแฮร์รีแถลงข่าวการประสูติของเจ้าหญิงลิลี่ด้วยถ้อยแถลงที่ว่า “เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน เรามีความสุขมากกับการถือกำเนิดของลูกสาวของเรา ลิลี่ เธอเป็นมากกว่าที่เราจินตนาการไว้ เราดีใจสำหรับความรักและผู้อวยพร ที่เราสัมผัสได้จากทั่วโลก ขอบคุณสำหรับความเมตตาและกำลังใจที่มีให้ในช่วงเวลาพิเศษนี้สำหรับครอบครัวของเรา”
เจ้าชายแฮร์รี และเมแกน เผยว่า ชื่อกลางของลิลิเบ็ต เป็นการเลือกที่เป็นเกียรติแด่เจ้าหญิงไดอานา พระมารดาของเจ้าชาย ซึ่งสิ้นพระชนม์ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ในกรุงปารีสปี 1997
ถ้อยแถลงระบุว่า ทั้งมารดาและทารกน้อย ซึ่งกลายเป็นรัชทายาทลำดับที่ 8 แห่งราชวงศ์อังกฤษ แข็งแรงดีและกลับไปพักฟื้นที่บ้านพักแล้ว
ลักษณะของการแถลง ซึ่งเกิดขึ้น 2 วันหลังการประสูติ สะท้อนถึงชีวิตใหม่ที่ทั้งคู่เลือกในสหรัฐฯ
ครั้งที่เจ้าหญิงเคท พระชายาของเจ้าชายวิลเลียม มีพระประสูติกาลรัชทายาท 3 พระองค์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ละครั้งเจ้าหญิงเคทจะปรากฏตัวจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน พร้อมกับพระสวามี ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เพื่อให้สื่อมวลชนทั่วโลกที่ปักหลักรออยู่บนถนนถ่ายภาพ
การประสูติพระธิดาลิลิเบ็ต มีขึ้นเกือบ 1 ปีครึ่ง หลังจากเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ประกาศถึงความตั้งใจยุติบทบาทในฐานะสมาชิกชั้นสูงของราชวงศ์ ฉุดราชวงศ์อังกฤษเข้าสู่วิกฤต
สถานการณ์ย่ำแย่ลงอย่างรวดเร็วในเดือนมีนาคมปีนี้ เมื่อทั้งสองพระองค์ให้สัมภาษณ์ทิ้งระเบิดกับ โอปาห์ วินฟรีย์ กล่าวหาสมาชิกราชวงค์พระองค์หนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม ใช้ถ้อยคำเหยียดผิว และเล่าว่า เมแกน เคยร้องขอความช่วยเหลือครั้งที่เธอคิดอยากฆ่าตัวตาย แต่ถูกเพิกเฉย
เมแกน พระชนมายุ 39 พรรษา ซึ่งมีมารดาเป็นคนผิวสีและบิดาเป็นคนผิวขาว ระบุว่าเธอเป็นคนไร้เดียงสา ก่อนสมรสกับเจ้าชายแฮร์รี และเข้าเป็นส่วนหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์
เวลานี้เจ้าชายแฮร์รี และเมแกน พักอาศัยอยู่ที่แมนชันหรูมูลค่า 14 ล้านดอลาร์ ในย่านที่อยู่ของบรรดาคนดัง “มอนเตซิโต” ห่างจากลอสแองเจลิส ไปทางเหนือราว 130 กิโลเมตร ในนั้นรวมถึงวินฟรีย์ เอลเลน ดีเจนเนอริสและคนดังรายอื่นๆ อีกมากมาย
ก่อนหน้านี้ เมแกน เปิดเผยในเดือนพฤศจิกายน 2020 ว่าเธอแท้งบุตรคนที่ 2 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2020
หลังจากให้สัมภาษณ์กับวินฟรีย์ เจ้าชายแฮร์รีได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ชีวิตในวัยเยาว์ของพระองค์ต่อสาธารณะเพิ่มเติม ก่ออีกปัญหาในความสัมพันธ์กับเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ที่นำโดยราชินีและเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระชนมายุ 72 พรรษา
เจ้าชายแฮร์รี ตรัสว่า ที่ทรงตัดสินพระทัยพา ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ และ อาร์ชี พระโอรสย้ายมาอยู่ที่สหรัฐฯ ก็เพราะต้องการ “ตัดวงจรความเจ็บปวด” ภายในพระบรมวงศานุวงศ์ของพระองค์ หลังจากทรงเชื่อว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระบิดาทรงปฏิบัติต่อพระองค์ เหมือนที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ทรงได้รับการปฏิบัติมา
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งเพิ่งสูญเสียเจ้าชายฟิลิป พระสวามีเมื่อเดือนเมษายน หลังครองชีวิตคู่มานาน 73 ปี ระบุว่าพระองค์ทรงเสียพระทัยอย่างยิ่งที่ได้รับประสบการณ์อันทุกข์ทรมานของเจ้าชายแฮร์รี และเมแกน
(ที่มา: รอยเตอร์)