กระทรวงสาธารณสุขของชิลีในวันพฤหัสบดี (3 มิ.ย.) เผยจะปรับเพิ่มอายุขั้นต่ำผู้ชายที่ฉีดโควิด-19 ของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จากเดิม 18 ปี เป็น 45 ปี และระงับใช้วัคซีนตัวดังกล่าวในการฉีดเข็มที่ 2 จนกว่าเจ้าหน้าที่จะเสร็จสิ้นการสืบสวนกรณีที่ชายคนหนึ่งเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังเข้ารับวัคซีนโดสแรก
ชิลีได้รับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าและมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดล็อตแรกในเดือนเมษายน และเบื้องต้นคณะควบคุมกฎระเบียบของประเทศอนุมัติใช้สำหรับผู้ชายอายุ 18 ปีขึ้นไป และผู้หญิงอายุ 45 ปีขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงสาธารณสุขชิลีเผยว่าชายวัย 31 ปีรายหนึ่งมีอาการลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งเกิดขึ้นน้อยมากแต่ร้ายแรง 7 วันหลังจากฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าโดสแรก
อาการลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำมีความเชื่อมโยงกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับผู้หญิงอายุต่ำกว่า 50 ปีในประเทศอื่นๆ ของโลก
กระทรวงสาธารณสุขชิลีระบุว่าจะปรับเพิ่มอายุขั้นต่ำสำหรับวัคซีนตัวดังกล่าวเป็น 45 ปี และระงับใช้โดสที่ 2 สำหรับผู้รับวัคซีนทุกคน ในสิ่งที่พวกเขาให้คำจำกัดความว่าเป็น “มาตรการเชิงรุกและป้องกันไว้ก่อน” ระหว่างการสืบสวนของคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านสาธารณสุข
ในส่วนของแอสตร้าเซนเนก้ายังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งได้รับอนุมัติใช้ในหลายสิบประเทศ แต่ไม่รวมถึงสหรัฐฯ อยู่ภายใต้การพินิจพิเคราะห์เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้นน้อยมากแต่รุนแรงถึงตายในผู้คนบางส่วนที่ฉีดวัคซีน ขณะที่อาการดังกล่าวถูกเชื่อมโยงกับวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเช่นกัน
เป็นที่น่าสังเกตว่า คณะสืบสวนของชิลีเคยระบุในเดือนเมษายนว่าไม่พบกรณีตัวอย่างเคสลิ่มเลือดในบรรดาผู้เข้าร่วมการทดลองทางคลินิกวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในประเทศ
ในวันพฤหัสบดี (3 มิ.ย.) กระทรวงสาธารณสุขยืนยันเช่นกันว่าพวกเขาได้รับรายงานผู้มีอาการเหนื่อยอ่อน 30 รายหลังฉีดวัคซีนโดสเดียวของแคนซิโน ไบโอโลจิกส์ และในนั้น 3 คนถึงขั้นหน้ามืดเป็นลม
เปาลา ดาซา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่า จนถึงตอนนี้ได้ฉีดวัคซีนตัวดังกล่าวที่ผลิตโดยจีนแล้วกว่า 56,000 โดสในชิลี บางส่วนมีรายงานพบผลข้างเคียงอยู่บ้าง แต่แค่เล็กๆ น้อยๆ และตอนนี้ทั้งหมดแข็งแรงดีและได้รับอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว
(ที่มา : รอยเตอร์ส)