ภาวะขาดแคลนวัคซีนโควิด-19 ของไต้หวันกระตุ้นให้ชาวบ้านบางส่วนเดินทางไปยังสหรัฐฯ เพื่อฉีดวัคซีน ในขณะที่การแพร่ระบาดระลอกใหม่ยังคงลามไม่หยุด ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 585 คนในวันพฤหัสบดี (3 มิ.ย.) และเสียชีวิตเพิ่ม 17 ราย
เจ้าหน้าที่สายการบินเปิดเผยว่า อุปสงค์เที่ยวบินไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะที่บริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งระบุมีชาวไต้หวันบางส่วนจองตั๋ว “ทัวร์วัคซีน” หลังจากอุปทานวัคซีนบนเกาะเหลือน้อย
สนามบินนานาชาติไต้หวันเถาหยวน ซึ่งปกติแล้วอยู่ในบรรยากาศว่างเปล่าตั้งแต่พบการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ครั้งแรกเมื่อ 18 เดือนก่อน มีผู้โดยสารจำนวนมากไหลบ่ามาขึ้นเครื่องบินมุ่งหน้าสู่สหรัฐฯ นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม
ตามข้อมูลพบว่า จากผู้โดยสารขาออกทั้งหมด 2,700 คนเมื่อวันพุธ (2 มิ.ย.) มีเกือบๆ 1,000 รายที่มุ่งหน้าสู่สหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นลอสแองเจลิส ซานฟรานซิาโก ซีแอตเทิล และนิวยอร์ก
อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระตุ้นให้อีวีเอแอร์ และไชน่า แอร์ไลน์ส 2 สายการบินหลักของไต้หวัน ปรับเพิ่มจำนวนเที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่สหรัฐฯ โดยทางอีวีเอมีแผนบินสู่ลอสแองเจลิสทุกวันเริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป จากเดิม 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ส่วนไชน่า แอร์ไลน์สมีแผนใช้เครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักเดินทางในเดือนมิถุนายน
“ความต้องการที่เพิ่มขึ้นมีความเกี่ยวข้องบางส่วนกับเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นในไต้หวัน โดยเฉพาะเมื่อยอดผู้เสียชีวิตสะสมพุ่งขึ้นอย่างมากเช่นกัน” ฟิลิป หวัง จากบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่งในไทเปกล่าว
นับตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน ครั้งที่การแพร่ระบาดระลอกล่าสุดเริ่มต้นขึ้น ไต้หวันรายงานพบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นมากกว่า 8,000 ราย และเสียชีวิตนับร้อยคน
เมื่อวันพฤหัสบดี (3 มิ.ย.) ศูนย์บัญชาการโรคระบาดกลางรายงานพบเคสผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นรายใหม่ 364 ราย เคสนำเชื้อเข้า 219 ราย และเสียชีวิต 17 คน ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของไต้หวันนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นอยู่ที่ 9,974 ราย เสียชีวิต 166 คน
หวังกล่าวว่า มีชาวไต้หวันจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นพลเมืองสหรัฐฯ หรือเป็นผู้พำนักถาวรในอเมริกา เดินทางมายังเกาะแห่งนี้ ครั้งที่สหรัฐฯ ประสบปัญหารับมือกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่ตอนนี้พวกเขาประสงค์เดินทางกลับสหรัฐฯ หลังจากไต้หวัน ซึ่งเคยประสบความสำเร็จในการควบคุมโควิด-19 ต้องเผชิญต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดเลวร้ายลง
“นอกจากนี้แล้วยังมีผู้คนที่ต้องการอาศัยผลประโยชน์จากการเข้าถึงวัคซีนค่อนข้างง่ายในสหรัฐฯ” หวังกล่าว พร้อมระบุว่าคนรวยไต้หวันจำนวนหนึ่งได้จัด “ทัวร์วัคซีน” มุ่งหน้าสู่อเมริกา ด้วยแผนพำนักอยู่ในสหรัฐฯ ราว 1 หรือ 2 เดือนระหว่างเข้ารับวัคซีน
ปัจจุบันมีชาวไต้หวันเพียง 3% จากทั้งหมด 23.5 ล้านคนของเกาะที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว
จนถึงตอนนี้ไต้หวันเพิ่งได้รับวัคซีน 870,000 โดส แบ่งเป็นจากแอสตร้าเซนเนก้า 720,000 โดส และจากโมเดอร์นา 150,000 โดส หรือคิดเป็นแค่เศษส่วนน้อยของสัญญาสั่งซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 10 ล้านโดส 5 ล้านโดสจากโมเดอร์นา และอีกกว่า 4.7 ล้านโดสผ่านโครงการโคแวกซ์
นอกจากนี้แล้ว ไต้หวันยังลงนามในข้อตกลงกับ เมดิเจน วัคซีน ไบโอโลจิกส์ และยูไนเต็ด ไบโอเมดิคัล สำหรับสั่งซื้อวัคซีนแห่งละ 5 ล้านโดส และตกลงปากเปล่าจะซื้อวัคซีนของทั้งสองบริษัทอีกแห่งละ 5 ล้านโดส แต่การตัดสินใจดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง เพราะว่าวัคซีนเพิ่งอยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิก
ชาวไต้หวันบางส่วนให้สัมภาษณ์แก่สถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอสระหว่างรอขึ้นเครื่องที่สนามบินเถาหยวนว่า พวกเขากำลังเดินทางไปยังสหรัฐฯ เนื่องจากในอเมริกาเข้าถึงวัคซีนได้ง่ายกว่า ส่วนไต้หวันวางเป้าหมายให้ความสำคัญต่อบุคลากรทางการแพทย์แถวหน้าเป็นลำดับแรก
(ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์)