ศบค.ไต้หวันเผย เอกชนซื้อวัคซีนเองได้ แต่รัฐบาลลงนามจะมีหลักประกันมากกว่า

อาร์ทีไอนิวส์ (1 มิ.ย.) - ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวัน เผย ภาคเอกชนเซ็นสัญญาซื้อวัคซีนเองได้ แต่รัฐบาลลงนามจะมีหลักประกันมากกว่า เชื่อมั่นมาตรการป้องกันโรคระดับ 3 ทำให้สถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศระลอกนี้ค่อยๆ ควบคุมได้

สถานการณ์โรคโควิด-19 ในไต้หวันที่กำลังรุนแรงอยู่ในขณะนี้ ทำให้มีภาคเอกชนจำนวนไม่น้อยที่แสดงความจำนงว่า ยินดีที่จะช่วยติดต่อเจรจาจัดซื้อและรับบริจาควัคซีนจากต่างประเทศ

ก่อนหน้านี้ นายเฉินสือจง (陳時中) ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวัน เคยย้ำว่าท้ายที่สุดแล้วก็จำเป็นจะต้องให้รัฐบาลกลางเป็นผู้ลงนามสัญญาจัดสรรวัคซีน

ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ตามกฎหมายว่าด้วยยา มาตรา 48-2 บัญญัติว่า กรณีมีเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุข หน่วยงานสาธารณสุขส่วนกลางจะต้องอนุมัติการนำเข้ายาที่ระบุเป็นกรณีพิเศษ แต่ไม่ได้บัญญัติไว้ว่าหน่วยงานรัฐบาลกลางจะต้องลงนามในสัญญา

ดังนั้นทำไมศูนย์บัญชาการควบคุมโรคจึงยืนกรานว่า รัฐบาลกลางต้องลงนามในสัญญา?

เมื่อวันที่ 31 พ.ค. นายเฉินสือจง ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวัน ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในประเด็นดังกล่าวด้วยท่าทีที่ผ่อนคลาย โดยเน้นย้ำว่า การลงนามสัญญาจัดซื้อวัคซีนนั้นมีรายละเอียดยิบย่อยมาก ปัจจุบันบริษัทวัคซีนจำนวนมากทำการซื้อขายได้เพียงกับรัฐบาลของประเทศหรือโครงการ Covax เท่านั้น

ดังนั้น รัฐบาลกลางเป็นผู้ลงนามจะมีหลักประกันตามกฎหมายมากกว่า แต่ถ้าหากภาคเอกชนต้องการลงนามในสัญญาจัดซื้อวัคซีนเอง ก็ต้องเป็นไปตามข้อกฎหมายของไต้หวัน จึงจะสามารถเจรจาได้ หากภาคเอกชนมีช่องทางในการได้วัคซีน รัฐบาลยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวัน แถลงจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โรคโควิด-19) ณ วันจันทร์ที่ 31 พ.ค. 2564 ไต้หวันพบผู้ป่วยยืนยันใหม่ภายในประเทศเพิ่ม 274 ราย ผู้ป่วยตกค้างที่ไม่ได้นับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 73 ราย ผู้ป่วยจากต่างประเทศ 4 ราย รวมทั้งสิ้น 351 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มในวันนี้ 15 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 124 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมรวม 8,511 ราย ในจำนวนนี้ติดเชื้อในประเทศ 7,321 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 1,137 ราย

ผู้ป่วยภายในประเทศภาพรวมวันนี้ 347 ราย อาศัยในนครนิวไทเปมากที่สุด 171 ราย รองลงมาคือ กรุงไทเป 122 ราย นครเถาหยวน 27 ราย จางฮั่ว 10 ราย นครไทจง 5 ราย จีหลง และเหมียวลี่ เมืองละ 3 ราย ตัวเมืองซินจู๋ 2 ราย ฮัวเหลียน เผิงหู นครเกาสง ซินจู๋ เมืองละ 1 ราย ในจำนวนนี้มีประวัติการทำกิจกรรมในกรุงไทเปและนครนิวไทเป 293 ราย ส่วนที่เหลือในเมืองอื่น 54 ราย มี 2 รายมีประวัติการทำกิจกรรมในเขตวั่นหัว 46 รายทราบแหล่งที่มาของการติดเชื้อ และ 6 รายยังหาความเชื่อมโยงได้ไม่แน่ชัด

ด้านนายเฉินสือจง (陳時中) ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการควบคุมโรคไต้หวัน ระบุว่า เมื่อดูจากจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศตกค้างที่ไม่ได้นับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. สูงสุด 400 ราย รองลงมาคือวันที่ 25 พ.ค. 331 ราย และค่อยๆ ลดลงในวันที่ 26 และ 27 พ.ค. 200 กว่าราย วันที่ 28 พ.ค. 166 ราย วันที่ 29 พ.ค. 89 ราย วันที่ 30 พ.ค. 73 ราย แสดงให้เห็นว่า ความพยายามของไต้หวันในช่วงเวลานี้ค่อยๆ บังเกิดสัมฤทธิ์ผลแล้ว เมื่อดูจากแผนภูมิค่าดัชนี Rt (Effective reproductive number (Rt) เป็นค่าที่ใช้ในการวัดระดับการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ ค่า Rt สามารถบอกได้ว่าพื้นที่นั้นใกล้ควบคุม

สถานการณ์ได้หรือยัง ถ้า Rt < 1 หมายถึง มีจำนวนผู้ป่วยหายเร็วกว่าการแพร่ระบาดของเชื้อ หาก Rt > 1 หมายถึง การแพร่ระบาดเกิดขึ้นเร็วกว่าจำนวนผู้หายป่วย ทำให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น) ไต้หวันในช่วงระหว่างวันที่ 13-15 พ.ค. สามวันนั้น ค่าดัชนี Rt อยู่ที่ 15 แต่พอมาถึงวันที่ 30 พ.ค. ค่าดัชนี Rt อยู่ที่ 1.02 แสดงให้เห็นว่าการเสียสละและความพยายามของทุกคนในช่วงมาตรการป้องกันโรคระดับ 3 ทำให้สถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศระลอกนี้ค่อยๆ ควบคุมได้