รายงานจากคณะกรรมาธิการรัฐสภาชี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ล้มเหลวในการปกป้องความมั่นคงของชาติ และป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีอ่อนไหวตกอยู่ในมือกองทัพจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยรายงานของคณะกรรมาธิการตรวจสอบด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงสหรัฐฯ-จีนที่มีกำหนดเผยแพร่เมื่อวันอังคาร (1 มิ.ย.) ซึ่งระบุว่า การที่กระทรวงพาณิชย์ล่าช้าในการจัดทำรายชื่อเทคโนโลยีอุบัติใหม่และเทคโนโลยีพื้นฐานที่ต้องตรวจสอบก่อนส่งออกให้จีน ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามกฎหมายปี 2018 ในการส่งเสริมการควบคุมการส่งออกนั้น อาจทำให้ความมั่นคงของสหรัฐฯ ตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น
อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์ได้ออกคำแถลงซึ่งไม่ได้พาดพิงถึงข้อกล่าวหาข้างต้นโดยตรง แต่ตั้งข้อสังเกตว่า กระทรวงได้เผยแพร่กฎ 4 ข้อว่าด้วยการควบคุมเทคโนโลยีอุบัติใหม่ และยังมีกฎอีกมากมายที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ อีกทั้งยังขยายขอบเขตกฎว่าด้วยผู้ใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหารและเพิ่มรายชื่อบริษัทที่ซัปพลายเออร์สหรัฐฯ ถูกสั่งห้ามไม่ให้ขายผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีให้ เช่น หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ และหางโจว ฮิกวิชัน
ทั้งนี้ ในปี 2018 รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ยกระดับนโยบายการส่งออกและกระบวนการคัดกรองการลงทุนของต่างชาติเพื่อรับมือความพยายามของนิติบุคคลจีนในการเข้าถึงเทคโนโลยีอ่อนไหวของอเมริกาและใช้นวัตกรรมพลเรือนเพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหาร
รายงานฉบับนี้ตั้งคำถามว่า ผู้ตรวจการของกระทรวงพาณิชย์ควรเข้าตรวจสอบกรณีความล่าช้าในการกำหนดรายชื่อเทคโนโลยีอ่อนไหวที่ต้องตรวจสอบก่อนส่งออกให้จีนหรือไม่ และควรโอนอำนาจในการบังคับใช้มาตรการควบคุมการส่งออกให้หน่วยงานอื่นหรือไม่
ทั้งนี้ คองเกรสได้ผ่านกฎหมายปฏิรูปการควบคุมการส่งออกปี 2018 เพื่อทำให้การส่งออกเทคโนโลยีสำคัญให้ศัตรูอย่างจีนทำได้ยากขึ้น
กฎหมายดังกล่าวกำหนดให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ระบุเทคโนโลยีอุบัติใหม่ หรือเทคโนโลยีล้ำยุค และเทคโนโลยีพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สำคัญ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งควรได้รับการควบคุม
เดือนพฤศจิกายน 2018 กระทรวงพาณิชย์ได้เผยแพร่ตัวอย่างเทคโนโลยีอุบัติใหม่ 45 รายการ ซึ่งรวมถึงการจดจำใบหน้าและเสียง แต่จนถึงขณะนี้รายการเหล่านั้นยังไม่ผ่านการดำเนินการขั้นสุดท้าย และกระทรวงยังไม่ได้เสนอรายการเทคโนโลยีพื้นฐาน แต่กลับเพิ่งขอข้อมูลวิธีการจำแนกหมวดหมู่นี้ในเดือนสิงหาคม
อย่างไรก็ดี อิริก เฮิร์ชฮอร์น อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ มองว่า การวิจารณ์นี้ไม่เป็นธรรม เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ควบคุมเทคโนโลยีอุบัติใหม่ในขอบเขตที่สามารถดำเนินการได้แล้ว ขณะที่เทคโนโลยีพื้นฐานแพร่หลายอยู่ทั่วไปนอกอเมริกา ทำให้ควบคุมได้ยาก
กระนั้น รายงานฉบับนี้ตั้งข้อสังเกตว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการบางอย่างแล้ว เช่น เสนอควบคุมซอฟต์แวร์การตัดต่อทางพันธุกรรมที่ทำให้การพัฒนาอาวุธชีวภาพทำได้ง่ายขึ้น แต่ยังไม่มีการดำเนินการขั้นสุดท้ายกับกฎนี้เช่นเดียวกัน
นอกจากนั้น แม้กระทรวงพาณิชย์ให้ความสนใจกับเทคโนโลยีการสอดแนมขั้นสูง ซึ่งรวมถึงการควบคุมการส่งออกเพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชน โดยอ้างอิงการใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อควบคุมชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียงของจีน แต่กระทรวงยังไม่ได้เข้าควบคุมซอฟต์แวร์สอดแนมขั้นสูงประเภทใหม่ๆ แต่อย่างใด
อนึ่ง คณะกรรมาธิการตรวจสอบด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงสหรัฐฯ-จีนจัดตั้งขึ้นโดยรัฐสภาสหรัฐฯเมื่อสองทศวรรษที่แล้ว เพื่อทำหน้าที่ในการรายงานนัยด้านความมั่นคงจากการค้ากับจีน
(ที่มา: รอยเตอร์)