เอเอฟพี - รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นกล่าววันนี้ (21 พ.ค.) ว่า หากว่ากองทัพรัฐประหารพม่ายังคงใช้ความรุนแรงปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงฝ่ายตรงข้ามต่อไป ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศผู้บริจาคช่วยเหลือพม่าลำดับต้นๆ อาจตัดสินใจแช่แข็งความช่วยเหลือ
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (21 พ.ค.) ว่า โตชิมิตซุ โมเตงิ (Toshimitsu Motegi) รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวให้สัมภาษณ์แก่สื่อนิกเกอิ เอเชียฉบับวันศุกร์ (21) เปิดเผยว่า การแช่แข็งสามารถขยายเพิ่มเติมได้
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นถือเป็นชาติต้นๆ ที่บริจาคให้การสนับสนุนพม่า ได้สั่งห้ามเคลื่อนไหวการให้ความช่วยเหลือใหม่ต่อพม่าหลังกองทัพตะมะดอ (တပ်မတော်)ได้เข้าทำรัฐประหารรัฐบาลพม่าที่มาจากการเลือกตั้งของอองซาน ซูจีเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
โมเตงิยืนยันว่า “เราไม่ต้องการทำอย่างนั้นแน่นอน แต่ทว่าเราได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่ามันเป็นการยากที่จะดำเนินการต่อไปภายใต้สถานการณ์เช่นนี้”
และเสริมว่า “ในฐานะประเทศที่สนับสนุนการประชาธิปไตยของพม่าในหลากหลายทางและในฐานะเพื่อน เราต้องแสดงต่อประชาคมโลกและแสดงให้เห็นถึงจุดนั้นอย่างชัดเจน”
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นประกาศในเดือนมีนาคมว่าได้สั่งแขวนการให้ความช่วยเหลือใหม่ทั้งหมดแก่พม่าในการตอบโต้ต่อการเกิดรัฐประหาร แต่ไม่มีการสั่งคว่ำบาตรต่อตัวบุคคลในกองทัพและผู้บัญชาการตำรวจเหมือนเช่นที่ชาติอื่นๆ ได้กระทำ
โมเตงิชี้ว่า ญี่ปุ่นเป็นชาติผู้บริจาคให้การสนับสนุนทางเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดต่อพม่า และอีกทั้งโตเกียวมีความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับกองทัพตะมะดอ
อ้างอิงจากนิกเกอิ เอเชีย ญี่ปุ่นให้การช่วยเหลือพม่าสำหรับการพัฒนาในปี 2019 จำนวน 1.74 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าประเทศใดๆ ที่เปิดเผยตัวเลขบริจาคเคยทำมา อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการบริจาคของจีนต่อพม่าไม่เป็นที่เปิดเผย
ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นมามีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 800 คน นักข่าวพลเมืองญี่ปุ่นที่ถูกจับหลังจากทำข่าวการทำรัฐประหารเพิ่งได้รับการปล่อยตัวสัปดาห์ที่แล้วและได้เดินทางกลับถึงกรุงโตเกียวแล้ว
การปล่อยตัวนักข่าวคนนี้เกิดขึ้นหลังโตเกียวกล่าวเสนอหยิบยื่นการให้เงินช่วยเหลือฉุกเฉินแก่พม่าจำนวน 4 ล้านดอลลาร์ผ่านโครงการอาหารโลก
ญี่ปุ่นเรียกร้องกองทัพพม่าให้ปล่อยตัวซูจีและนำประชาธิปไตยกลับคืน แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ารัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นจะข่มขู่ที่จะแช่แข็งการช่วยเหลือ แต่เขายังคงยืนยันกับสื่อญี่ปุ่นว่าโตเกียวจะยังคงพูดคุยร่วมกับพม่าต่อไป พร้อมชี้ว่าญี่ปุ่นมีช่องทางการติดต่อในพม่ามากกว่าชาติสหรัฐฯ และยุโรปเสียอีก
เขายืนยันว่า “เรามีช่องทางติดต่อมากมายในพม่า รวมไปถึงกับกองทัพ มากกว่ายุโรปและสหรัฐฯ”