สถานที่สาธารณะเกือบทุกแห่งของบาห์เรนจะไม่ต้อนรับบุคคลที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิด-19 เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ (21 พ.ค.) เป็นต้นไป มาตรการที่กำหนดออกมาหลังจากประเทศแห่งนี้ต้องเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายวันสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด
ในมาตรการดังกล่าว บุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปที่ได้รับวัคซีนโดสที่ 2 แล้วเป็นเวลาอย่างต่ำ 14 วันหรือฟื้นไข้จากการติดเชื้อโควิด-19 เท่านั้น ที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านทำผม โรงภาพยนตร์ และสำนักงานต่างๆทางราชการ
มาตรการดังกล่าวมีข้อยกเว้นเฉพาะธุรกิจต่างๆ ที่มีความจำเป็น เช่น ซูเปอร์มาร์เกต ธนาคาร ร้านขายยา และโรงพยาบาล
ถ้อยแถลงของกระทรวงสาธารณสุขบาห์เรนที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (20 พ.ค.) ระบุว่าข้อจำกัดต่างๆ เหล่านี้จะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 3 มิถุนายน พร้อมเรียกร้องประชาชนอดทนอดกลั้นจากการรวมกลุ่มกันเกินกว่า 6 คน
ในวันพุธ (19 พ.ค.) บาห์เรนรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ 2,354 คน เกือบ 2 เท่าหากเทียบกับตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันเมื่อราวๆ 1 สัปดาห์ก่อนหน้า จนถึงวันพุธ (19 พ.ค.) ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของประเทศแห่งนี้อยู่ที่ 206,878 ราย ในนั้นเสียชีวิต 773 คน
เคสผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นในปัจจุบันเกิดขึ้นหลังจากซาอุดีอาระเบียกลับมาเปิดชายแดนเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ซึ่งมีรายงานว่ารถยนต์หลายร้อยคันมุ่งหน้ามายังบาห์เรน ผ่านสะพานคิง ฟาฮัด ความยาว 25 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม วาลีด อัล มานีอา ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันระหว่างแถลงข่าวในวันพฤหัสบดี (20 พ.ค.) ว่าเคสผู้ติดเชื้อที่เข้ามาจากต่างแดนนั้น "มีจำนวนจำกัด"
เจ้าหน้าที่ชี้ว่าปัจจัยสนับสนุนเคสผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นก็คือการรวมตัวของคนหมู่มากในบาห์เรนระหว่างเดือนรอมฎอนของชาวมุสลิมและเทศกาลอีฎิ้ลฟิตริ แต่ปัจจุบันทางการได้ยกระดับโครงการตรวจเชื้อแล้ว "เราเรียกร้องประชาชนให้เข้ารับวัคซีน และปฏิบัติตามมาตรการรป้องกันไว้ก่อนเพื่อผลประโยชน์ของบาห์เรน" มานีอาระบุ
จากการเปิดเผยของคณะกรรมการจัดการไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของบาห์เรน พบว่าจนถึงตอนนี้มีประชากรราว 37% จากทั้งหมด 1.7 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 โดยสมบูรณ์แล้ว หรือได้รับวัคซีนโดสที่ 2 อย่างน้อย 14 วัน
(ที่มา : รัสเซียทูเดย์)