วิกฤตโควิด-19 ในอินเดียยังไม่ดีขึ้น ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังเกินวันละกว่า 3 แสน ซ้ำจำนวนผู้เสียชีวิตพุ่งทำสถิติใหม่และทำให้ยอดรวมทะลุ 250,000 คน ที่น่าเป็นห่วงมากขึ้นคือ องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่า พบไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อินเดียในอย่างน้อย 44 ประเทศทั่วโลก ขณะที่ไต้หวันซึ่งสยบโควิดได้อย่างดีมาตลอด ระบุเตรียมยกระดับการคุมโควิด เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ทำท่ารุนแรงมาก
อินเดียรายงานในวันพุธ (12 พ.ค.) ว่า รอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 4,205 คน ถือเป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่ และทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดเพิ่มเป็น 254,197 คน ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 350,000 คน รวมยอดสะสม 23.3 ล้านคน
ทว่า ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเชื่อว่า ตัวเลขของทางการต่ำเกินจริง 3-4 เท่า
ปัจจุบัน โรงพยาบาลทั่วอินเดียไม่สามารถรักษาผู้ป่วยได้ และมีศพรอเผามากเกินกำลังของสถานฌาปนกิจ เหยื่อโควิดมากมายยังไม่ได้ถูกบันทึกสาเหตุการตายอย่างถูกต้อง
นอกจากต้องเผาศพกันตามเมรุชั่วคราวในที่จอดรถและสถานที่สาธารณะอื่นๆ ซึ่งตอกย้ำระดับความรุนแรงของวิกฤตโควิดระลอกสองในอินเดียแล้ว ยังมีรายงานการพบศพหลายสิบศพลอยติดชายฝั่งแม่น้ำคงคา ตอกย้ำความกังวลว่า ไวรัสโคโรนาบุกถึงพื้นที่ห่างไกลที่มีประชากรแดนภารตะอาศัยอยู่ถึง 2 ใน 3 และระบบสาธารณสุขอ่อนแอยิ่ง
ในวันพุธ เจ้าหน้าที่ในรัฐพิหาร ซึ่งอยู่ทางเหนือของประเทศเผยว่า พบศพที่สงสัยเป็นเหยื่อโควิดลอยติดริมตลิ่งแม่น้ำคงคาเพิ่มเป็น 71 ศพ
กิจกรรมทางศาสนาและการหาเสียงขนาดใหญ่ที่ดึงดูดประชาชนหลายล้านคนในช่วงไม่กี่เดือนมานี้คือสองสาเหตุสำคัญของวิกฤตโรคระบาดในอินเดียขณะนี้
อีกหนึ่งตัวการสำคัญคือ ไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์บี.1.617 ที่พบครั้งแรกในอินเดียเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อวันอังคาร (11) องค์การอนามัยโลก เผยว่า ตรวจพบไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อินเดียในอย่างน้อย 44 ประเทศทั่วโลก
ในอีกด้านหนึ่ง เฉิน สือจง รัฐมนตรีสาธารณสุขไต้หวันประกาศเมื่อวันพุธว่า อาจยกระดับการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในไม่กี่วันข้างหน้านี้ และเตือนว่า สถานการณ์ขณะนี้รุนแรงอย่างยิ่ง
ทั้งนี้เมื่อวันอังคาร ไต้หวันประกาศเตรียมแผนจำกัดการรวมกลุ่มในที่สาธารณะ หลังจากเจอคลัสเตอร์ที่พบผู้ติดเชื้อใหม่ 6 คนแต่ไม่พบต้นตอการแพร่เชื้อที่ชัดเจน ซึ่งถือเป็นการระบาดที่ผิดปกติสำหรับเกาะแห่งนี้ซึ่งพยายามป้องกันการระบาดในชุมชนอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด
เฉินแถลงต่อรัฐสภาว่า หากพบความล้มเหลวแม้เพียงเล็กน้อยในการควบคุมโรค รัฐบาลอาจยกระดับการควบคุมโควิดขึ้นไป 1 ขั้นสู่ระดับ 3 โดยเร็ว ซึ่งหมายถึงการจำกัดให้รวมกลุ่มทำกิจกรรมได้ไม่เกิน 5 คนในอาคาร และกลางแจ้งไม่เกิน 10 คน รวมทั้งปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็น
ทางด้านประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน เรียกร้องประชาชนไม่ให้แตกตื่น แต่ควรตื่นตัวและปฏิบัติตามแนวทางของรัฐบาล โดยยืนยันว่า มีอุปกรณ์การแพทย์เพียงพอ และแสดงความเชื่อมั่นว่า คนไต้หวันจะเอาชนะความท้าทายนี้ได้
ไช่สำทับว่า ที่ผ่านมาไต้หวันสามารถควบคุมการระบาดได้เป็นอย่างดี และประชาชนควรช่วยกันเพื่อปกป้องประเทศจากวิกฤตไวรัสและส่งเสริมให้เศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง
ไต้หวันปิดพรมแดนเป็นส่วนใหญ่ในช่วงที่โควิดระบาดครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว และมีระบบติดตามโรคและกักตัวผู้ติดเชื้อที่เข้มแข็ง ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมเพียง 1,210 คน และเสียชีวิต 12 คน อีกทั้งทำให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้เกือบปกติ
ทว่า สัปดาห์นี้ รัฐบาลได้ขอให้โรงพยาบาลทั่วประเทศจัดเตรียมแผนกรองรับผู้ติดเชื้อที่อาจเพิ่มขึ้น โดยเฉินเสริมว่า โรงพยาบาลเหล่านั้นมีเตียงผู้ป่วย 3,000 เตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)
