xs
xsm
sm
md
lg

พุ่งไม่หยุด! ‘อินเดีย’ ติดเชื้อวันเดียว 3.86 แสน-ตายเกือบ 3.5 พัน ปิดศูนย์ฉีดวัคซีนมุมไบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อินเดียปิดศูนย์ให้บริการฉีดวัคซีนทุกแห่งในนครมุมไบเป็นเวลา 3 วัน เนื่องจากมีวัคซีนไม่เพียงพอ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันทั่วประเทศพุ่งทุบสถิติใหม่กว่า 380,000 รายในวันนี้ (30 เม.ย.)

กระทรวงสาธารณสุขอินเดียแถลงตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่ม 386,452 รายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกถึง 3,498 ราย

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเชื่อว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอินเดียตอนนี้น่าจะสูงกว่าที่สถิติของทางการประมาณ 5-10 เท่าตัว

จากข้อมูลที่รวบรวมโดยรอยเตอร์พบว่า ยอดผู้ป่วยโควิดในอินเดียเพิ่มขึ้นถึง 7.7 ล้านคนภายในเวลาเพียงแค่ 2 เดือนนับจากปลาย ก.พ. ปีนี้ ซึ่งถือว่าเร็วมากเมื่อเทียบกับตัวเลข 7.7 ล้านคนก่อนหน้าที่ต้องใช้ระยะเวลาสะสมนานเกือบ 6 เดือน

สถานการณ์โรคระบาดในอินเดียนับว่าเข้าขั้นวิกฤตร้ายแรง โรงพยาบาลและห้องเก็บศพไม่เพียงพอต่อจำนวนคนป่วยและผู้ที่เสียชีวิตในแต่ละวัน ขณะที่ตัวยารักษาโควิด-19 และออกซิเจนก็กำลังขาดแคลนอย่างหนัก

แม้จะได้ชื่อว่าเป็นประเทศผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่อินเดียกลับไม่มีวัคซีนในสต๊อกมากพอที่จะรับมือการระบาดของโควิดระลอกที่สอง โดยตั้งแต่เดือน ม.ค.เป็นต้นมาเพิ่งจะมีชาวอินเดียเพียง 9% จากทั้งหมด 1.4 พันล้านคนที่ได้ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส

ในขณะที่รัฐบาลนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ประกาศจะเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่ประชากรวัยผู้ใหญ่ทั้งหมดในวันที่ 1 พ.ค. หลายรัฐในอินเดียกลับออกมายอมรับว่าพวกเขาคงจะไม่สามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชากรอายุระหว่าง 18-45 ปีได้ในทันที

ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากนานาชาติเริ่มทยอยหลั่งไหลเข้าสู่อินเดีย โดยในวันนี้ (30) เครื่องบินขนส่งถังออกซิเจน, ชุดตรวจโควิด, หน้ากากอนามัย N95 และอุปการณ์ตรวจวัดชีพจรจากสหรัฐฯ เที่ยวแรกได้เดินทางไปถึงกรุงนิวเดลีแล้ว

รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศส่งความช่วยเหลือมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ไปยังอินเดีย ในจำนวนนี้ประกอบด้วย ออกซิเจนจำนวน 1,000 ถัง, หน้ากาก N95 จำนวน 15 ล้านชิ้น และชุดตรวจโควิดแบบ rapid test อีก 1 ล้านชุด นอกจากนี้ อเมริกายังโอนคำสั่งซื้อวัตถุดิบผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้แก่แดนภารตะ ซึ่งจะช่วยให้สามารถผลิตวัคซีนได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 20 ล้านโดส

ยังมีอีกหลายประเทศที่จัดส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปช่วยอินเดียเช่นกัน เช่น สหราชอาณาจักร, รัสเซีย, โรมาเนีย และไอร์แลนด์ เป็นต้น

ผู้บริหารในอุตสาหกรรมผลิตออกซิเจนรายหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่า วิกฤตขาดแคลนออกซิเจนในอินเดียน่าจะเริ่มคลี่คลายในช่วงกลางเดือน พ.ค. โดยจะมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้น 25% และระบบขนส่งก็จะพร้อมรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น

อินเดียจะได้รับวัคซีน Sputnik V ล็อตแรกจากรัสเซียในวันที่ 1 พ.ค. ในขณะที่กองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซีย (RDIF) ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายวัคซีน Sputnik V ยังได้ทำสัญญากับผู้ผลิต 5 รายในอินเดีย เพื่อร่วมกันผลิตวัคซีนให้ได้มากกว่า 850 ล้านโดสต่อปี

คริสโตเฟอร์ เมอร์เรย์ ผู้อำนวยการสถาบันชี้วัดและประเมินผลด้านสุขภาพจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (Institute for Health Metrics and Evaluation - IHME) ให้ความเห็นว่า การที่โควิด-19 ในอินเดียกลับมาแพร่ระบาดรุนแรงในระยะเวลาอันสั้น บ่งชี้ว่าอาจมีการกำเนิดของไวรัสกลายพันธุ์ที่สามารถเอาชนะภูมิคุ้มกันซึ่งเกิดจากการติดเชื้อตามธรรมชาติ

“เป็นไปได้ว่ามันก็คือเชื้อกลายพันธุ์ B.1.617” เมอร์เรย์กล่าว แต่ก็เตือนว่าฐานข้อมูลลำดับเบสของสารพันธุกรรม (gene sequencing) ไวรัสโคโรนาในอินเดียยังมีน้อยมาก และเคสผู้ป่วยส่วนใหญ่อาจจะเกิดจากเชื้อสายพันธุ์อังกฤษหรือแอฟริกาใต้ก็เป็นได้

ที่มา : รอยเตอร์




กำลังโหลดความคิดเห็น