xs
xsm
sm
md
lg

บลูออริจินของ ‘เจฟฟ์ เบซอส’ ขวางนาซาเลือกสเปซเอ็กซ์ของ ‘อีลอน มัสก์’ เตือนทำให้โปรเจกต์ส่งคนไปดวงจันทร์ล่าช้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 9 พ.ค. 2019) เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งบริษัทอวกาศ “บลู ออริจิน” ขณะประกาศข่าวยานร่อนลงจอดบนดวงจันทร์ ซึ่งจะใช้ชื่อว่า “บลู มูน”
บลู ออริจิน บริษัทพัฒนาจรวดที่ก่อตั้งโดยเจฟฟ์ เบซอส เจ้าพ่อแอมะซอน ยื่นคัดค้านการตัดสินใจของนาซาที่เลือกสเปซเอ็กซ์ของอีลอน มัสก์ รับผิดชอบโครงการสร้างระบบลงจอดบนดวงจันทร์มูลค่า 2,900 ล้านดอลลาร์แต่เพียงผู้เดียว ชี้ทำให้โปรเจกต์ส่งมนุษย์กลับสู่ดวงจันทร์เป็นครั้งแรกนับจากปี 1972 ล่าช้าและเสี่ยงอันตราย

วันจันทร์ (26) บลู ออริจินเผยว่า ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานความรับผิดชอบของรัฐบาล (จีเอโอ) ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบของรัฐสภาสหรัฐฯ กล่าวหาองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) เปลี่ยนกฎสำหรับผู้ประมูลโครงการดังกล่าวในนาทีสุดท้าย

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นาซาเลือกสเปซเอ็กซ์ให้สร้างจรวดสตาร์ชิปเพื่อนำนักบินอวกาศไปยังดวงจันทร์อย่างเร็วที่สุดในปี 2024 แทนที่จะเป็น บลู ออริจิน และไดเนติกส์ ผู้รับเหมาสัญญากลาโหม

โครงการสร้างระบบลงจอดบนดวงจันทร์นี้เป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากมีเป้าหมายในการส่งมนุษย์กลับสู่ดวงจันทร์เป็นครั้งแรกนับจากปี 1972

ในคำแถลงที่เผยแพร่ทางอีเมล บลู ออริจินระบุว่า นาซาเปลี่ยนกฎในนาทีสุดท้าย และการตัดสินใจดังกล่าวตัดโอกาสในการแข่งขัน ลดตัวเลือกด้านอุปทาน อีกทั้งทำให้แผนการส่งมนุษย์กลับสู่ดวงจันทร์ล่าช้าและเป็นอันตราย

ทั้งนี้ สเปซเอ็กซ์ยื่นประมูลโดยไม่มีพันธมิตร ขณะที่ บลู ออริจินร่วมประมูลกับ ล็อกฮีด มาร์ติน, นอร์ธอร์ป กรัมแมน และเดรเปอร์

บลู ออริจินแย้งว่า นาซาประเมินความเสี่ยงผิดพลาดในการเลือกจรวดขนส่งใหม่ของสเปซเอ็กซ์ที่ไม่มีประวัติการบินและการตรวจสอบยืนยันประสิทธิภาพ นอกจากนั้นการสร้างจรวดขนส่งขึ้นมาใหม่ยังเป็นภารกิจที่ยากอย่างยิ่งและใช้เวลานานกว่าที่คาด

สเปซเอ็กซ์อยู่ในขั้นตอนการทดสอบต้นแบบจรวดสตาร์ชิปในเทกซัส ทว่า การทดสอบหลายครั้งเมื่อเร็วๆ นี้จบลงด้วยการที่จรวดระเบิด บลู ออริจินยังระบุว่า การตัดสินใจของนาซาที่เลือกผู้รับสัมปทานเพียงรายเดียว แทนที่จะเป็นสองรายตามที่กำหนดไว้ในขั้นตอนการยื่นประมูล อาจทำให้โครงการนี้มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากขาดแผนการสำรอง

การตัดสินใจนี้ยังนำไปสู่แนวโน้มการผูกขาดสำหรับภารกิจการสำรวจอวกาศในอนาคตทั้งหมดของนาซา เนื่องจากจะมีเพียงระบบของสเปซเอ็กซ์เท่านั้นที่ได้รับเลือกสำหรับภารกิจเกี่ยวกับดวงจันทร์โครงการอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ บลู ออริจินจึงต้องการให้จีเอโอกดดันให้นาซาล้มเลิกการตัดสินใจ เปิดให้มีการยื่นข้อเสนอใหม่ และหารือกับผู้ยื่นข้อเสนอที่มีความเป็นไปได้ทั้งหมดภายใต้ข้อกำหนดที่ทบทวนใหม่

ด้านโฆษกของนาซาเผยว่า ได้รับทราบเกี่ยวกับการยื่นคัดค้านของบลู ออริจินแล้ว แต่ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาตามกฎหมาย

อนึ่ง วันเดียวกันนั้น เทสลา ผู้ผลิตรถไฟฟ้าแถวหน้าซึ่งเป็นของมัสก์เช่นเดียวกัน ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปีนี้ โดยมีกำไร 438 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 16 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ขณะที่รายได้พุ่งขึ้น 74% เป็น 10,400 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ดี แม้ฟันกำไรสูงเกินคาด แต่เทสลากำลังถูกตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีออโตไพล็อต หลังอุบัติเหตุของเทสลา โมเดลเอส เมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมา ใกล้เมืองฮิวสตันที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน และรายงานเบื้องต้นระบุว่า ไม่มีใครนั่งในตำแหน่งคนขับ โดยหน่วยงานรัฐบาลสองแห่งกำลังตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้

ลาร์ส มอราวี รองประธานฝ่ายวิศวกรรมยานยนต์ของเทสลากล่าวถึงเรื่องนี้ระหว่างการพูดคุยกับนักลงทุนเมื่อวันจันทร์ว่า บริษัทกำลังร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สอบสวน และผลการศึกษาซากรถพบว่า พวงมาลัยมีสภาพบิดเบี้ยว บ่งชี้ว่า มีคนนั่งในตำแหน่งคนขับตอนที่รถชน นอกจากนั้นยังไม่มีการเปิดใช้งานระบบช่วยขับขี่ขั้นสูงหรือออโตไพล็อต และเข็มขัดนิรภัยทุกตำแหน่งถูกปลดออกหลังการชน

(ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 1 ธ.ค. 2020) อีลอน มัสก์ เจ้าของบริษัท สเปซเอ็กซ์ และซีอีโอของเทสลา โพสท่าให้ช่างภาพถ่ายรูป ในงานแจกรางวัลงานหนึ่งที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
กำลังโหลดความคิดเห็น