พันธมิตรของ อเล็กเซ นาวาลนี ผู้วิพากษ์วิจารณ์ตัวยงประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันอาทิตย์ (18 เม.ย.) เปิดตัวแผนการประท้วงที่พวกเขาหวังว่าจะเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของรัสเซียในวันพุธ (21 เม.ย.) ขณะที่วอชิงตันและชาติตะวันตกอื่นๆ เตือนรัสเซียว่าจะต้องชดใช้ หากปล่อยให้เขาตายจากการอดอาหารประท้วงในเรือนจำ
นัดหมายวันเวลาของการประท้วงถูกร่นให้เร็วขึ้น หลังจากสหภาพการแพทย์ที่มีความสัมพันธ์กับนาวาลนี เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (17เม.ย.) ว่า เขาอยู่ในอาการวิกฤต อ้างผลตรวจทางการแพทย์พบว่าไตของนาวาลนีอาจล้มเหลวเร็วๆ นี้ และอาจนำมาซึ่งภาวะหัวใจหยุดเต้น
“หลายๆ อย่างมีพัฒนาการไปอย่างรวดเร็วและเลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว” พันธมิตรของเขาเขียนในถ้อยแถลงที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของนาวาลนี พร้อมประกาศแผนชุมนุมบนท้องถนนนทั่วประเทศ ในสิ่งที่พวกเขาให้คำจำกัดความว่าเพื่อให้เขาได้รับการดูแลปกป้องชีวิตทางการแพทย์ เช่นเดียวกับเป็นการประท้วงต่อการปราบปรามบรรดาผู้สนับสนุนของเขา
ชะตากรรมของนาวาลนี วัย 44 ปี ผู้วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีปูตินคนดังที่สุดคนหนึ่ง ซ้ำเติมความตึงเครียดในความสัมพันธ์ที่มึนตึงอยู่ก่อนแล้วระหว่างรัสเซียกับตะวันตก และ เจค ซุลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาาธิบดี โจ ไบเดน เผยในวันอาทิตย์ (18 เม.ย.) สหรัฐฯได้บอกกับรัสเซีย “จะเจอผลสนอง” หากว่านาวาลนีเสียชีวิตในเรือนจำ
คาดหมายว่า บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) จะหารือกันในเคสของนาวาลนีในวันจันทร์ (19 เม.ย.) และ โจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู สัญญาว่าจะให้มอสโกรับผิดชอบต่อเรื่องนี้เช่นกัน
เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และ ไฮโค มาส รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี เรียกร้องขอให้ นาวาลนี ได้รับการรักษาทางการแพทย์ในทันที เช่นเดียวกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ส่วนประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส บอกว่าบรรดาชาติมหาอำนาจจะ “ขีดเส้นตายอย่างชัดเจน” กับรัสเซีย และพิจารณามาตรการคว่ำบาตรต่างๆที่เป็นไปได้หากพวกเขาล้ำเส้น
สหราชอาณาจักรก็แสดงความกังวลใหญ่หลวงเช่นกัน ต่อรายงานข่าวเกี่ยวกับแนวทางการรักษานาวาลนี ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับ และสุขภาพที่เสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ ของเขา กระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรระบุ
เจ้าหน้าที่รัสเซียกล่าวหา นาวาลนี ซ้ำเติมสุขภาพของตนเองเพื่อเรียกร้องความสนใจ และปฏิเสธการดูแลรักษาของทางเรือนจำ พร้อมกันนั้น ก็ให้คำรับประกันว่าผู้ต้องขังรายนี้จะมีชีวิตรอด “เราจะไม่ปล่อยให้เขาตายในเรือนจำ แต่ผมสามารถพูดได้ว่ามิสเตอร์นาวาลนี เขามีพฤติกรรมราวกับฮูลิแกน” อัลเดร เคลิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหราชอาณาจักร ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีเมื่อวันอาทิตย์ (18 เม.ย.)
นาวาลนีอ้างว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำขู่ว่าจะจับเขาสวมชุดผู้ป่วยทางจิตที่คลุ้มคลั่ง จนกว่าจะยอมรับประทานอาหาร ขณะที่นักเคลื่อนไหวบางส่วนเรียกร้องอนุญาตให้เขาบินออกนอกประเทศเพื่อเข้ารับการดูแลทางการแพทย์ฉุกเฉิน
ทั้งนี้ นาวาลนี เดินทางไปยังเยอรมนีเมื่อเดือนสิงหาคม เพื่อรักษาอาการป่วยหลังถูกวางยาพิษด้วยสารทำลายระบบประสาทชนิดหนึ่ง ซึ่งเขากล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของปูติน เขาถูกจับกุมตอนที่เดินทางกลับสู่รัสเซียในเดือนมกรคม และโดนตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง โทษฐานละเมิดทัณฑ์บน ที่เขาเชื่อว่าเป็นการจัดฉาก
เครมลินระบุว่า ไม่มีหลักฐานว่า นาวาลนี ถูกวางยาและยืนยันว่ารัสเซียไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ
เจ้าหน้าที่มอสโกสงสัยว่า นาวาลนีและพวกผู้สนับสนุนของเขา เป็นตัวบ่อนทำลายเสถียรภาพของรัสเซียที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และตอนนี้อยู่ระหว่างหาทางประกาศให้พวกเขาเป็นพวกหัวรุนแรง ซึ่งจะเป็นการเปิดประตูสำหรับโทษจำคุกระยะยาว
นาวาลนี เข้าสู่การอดอาหารประท้วงเมื่อวันที่ 31 มีนาคม เพื่อเรียกร้องเข้าถึงการรักษาทางการแพทย์ที่เหมาะสม จากอาการปวดหลังและอาการชาบริเวณมือและขา
เหล่าเจ้าหน้าที่เรือนจำบอกว่าได้มอบการรักษาทางการแพทย์ที่เหมาะสมแก่นาวาลนีแล้ว แต่เขาปฏิเสธ ขณะเดียวกัน ทางเรือนจำก็ได้ปฏิเสธคำร้องของเขา ที่ขอรักษาตัวโดยแพทย์รายหนึ่งจากนอกเรือนจำที่เขาเป็นคนเลือกเอง
พันธมิตรของนาวาลนีอ้างว่าที่เขาปฏิเสธการรักษาทางการแพทย์ของเรือนจำ เพราะว่ามันล้าสมัยและค่อนข้างอันตราย
ทั้งนี้ พันธมิตรของนาวาลนีเคยประกาศเลื่อนการประท้วง หลังจากเคยจัดการชุมนุมมาแล้ว 3 ครั้งในช่วงกลางฤดูหนาว พวกผู้ชุมนุมบางส่วนแสดงความไม่พอใจที่การประท้วงหยุดชะงัก แต่บรรดาแกนนำบอกว่าพวกเขาจะจัดการชุมนุมใหญ่ก็ต่อเมื่อมีประชาชน 500,000 คน ลงทะเบียนเข้าร่วมทางออนไลน์
อย่างไรก็ตาม หลังจากสุขภาพของนาวาลนีทรุดลง แกนนำตัดสินใจเร่งเดินหน้านัดชุมนุมใหญ่ในวันพุธ (21 เม.ย.) แม้มีผู้ลงทะเบียนราว 40,000 คน ห่างไกลจากเป้าหมายค่อนข้างมาก
ดาชา ลูกสาวของนาวาลนี ซึ่งเธอเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เรียกร้องผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ (18 เม.ย.) ขอให้พ่อของเธอได้รับการดูแลจากแพทย์ที่เขาเลือกเอง
(ที่มา: รอยเตอร์)