เกาหลีเหนืออาจกลับมาทดสอบนิวเคลียร์ในปีนี้ ในหนทางบีบรัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน เข้าสู่การเจรจา พวกผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองสหรัฐฯระบุในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (13 เม.ย.
“คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือใช้อาจพฤติกรรมก้าวร้าวและบั่นทอนเสถียรภาพต่างๆ นานา เพื่อปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงในภูมิภาค กระตุ้นความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับพันธมิตร เพื่อสิ่งนั้น อาจรวมไปถึงการกลับมาทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM)” สำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติระบุในรายงานที่เกี่ยวกับภัยคุกคามต่างๆ ทั่วโลกที่สหรัฐฯต้องเผชิญ
“เราประเมินว่า คิม มีมุมมองต่ออาวุธนิวเคลียร์ว่าเป็นเครื่องป้องปรามอันเด็ดขาดต่อการแทรกแซงใดๆ ของต่างชาติ และเชื่อว่าพอเวลาผ่านไป เขาจะได้รับการยอมรับและความเคารพจากนานาชาติ ในฐานะมหาอำนาจนิวเคลียร์” รายงานระบุ
เกาหลีเหนือไม่ได้ทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลมานานกว่า 3 ปี และเปิดประตูสำหรับเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อปลดนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า “คิม อาจกำลังพิจารณาว่าจะกลับมาทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลหรือนิวเคลียร์หรือไม่ในปีนี้ ในความพยายามบีบให้สหรัฐฯเจรจากับเขาภายใตเงื่อนไขของเปียงยาง”
รายงาน 27 หน้ายังพูดถึงประเด็นโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และคาดการณ์คำแถลงของเตหะรานในวันอังคาร (12 เม.ย.) ที่บอกว่าจะเริ่มเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ให้มีความบริสุทธิ์สูงสุด 60% ซึ่งจะเข้าใกล้หลักหมาย 90% ที่จำเป็นในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมสำหรับใช้ในอาวุธนิวเคลียร์
“เราจะเดินหน้าประเมินว่าในปัจุบันอิหร่านไม่ได้มีความเคลื่อนไหวสำคัญต่างๆ ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ที่เรามองว่ามีความจำเป็นสำหรับผลิตวัตถุนิวเคลียร์ ถ้าอิหร่านไม่ได้รับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร บางทีเจ้าหน้าที่อิหร่านอาจจะพิจารณาทางเลือกต่างๆ ไล่ตั้งแต่เสริมสมรรถนะยูเรเนียม ให้มีความบริสุทธิ์สูงสุด 60% ไปจนถึงออกแบบและสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลหนักแห่งใหม่ 40 เมกะวัตต์”
อับบาส อารัคชี หัวหน้าทีมเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านประกาศว่า พวกเขาจะเริ่มการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม ให้มีความบริสุทธิ์ถึง 60% คำแถลงซึ่งเกิดขึ้น 2 วันหลังเกิดเหตุระเบิดที่โรงงานนิวเคลียร์ในเมืองนาตานซ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งอิหร่านกล่าวหาว่า เป็นการก่อวินาศกรรมฝีมือศัตรูคู่อาฆาตอย่างอิสราเอล
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของอิหร่านเกิดขึ้นไม่นานก่อนที่ เจ้าหน้าที่ของอิหร่านกับมหาอำนาจ 6 ชาติจะกลับมาหารือกันที่กรุงเวียนนา เพื่อหาทางฟื้นฟูข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์อิหร่าน ที่พวกเขาทำไว้เมื่อปี 2015 หลังจากอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ถอนตัวสหรัฐฯออกจากข้อตกลงนี้เมื่อ 3 ปีก่อน
ข้อตกลงนิวเคลียร์ 2015 ระหว่างอิหร่านกับเหล่ามหาอำนาจโลก เรียกร้องให้อิหร่านดัดแปลงลดศักยภาพเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลหนักที่เมืองอารัค ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของนาชาติ เพื่อที่มันจะไม่สามารถใช้ผลิตพลูโตเนียมเกรดทหาร
(ที่มา: เอเอฟพี)
