หญิงชาวเอเชียถูกแทงเสียชีวิตขณะกำลังจูงสุนัขเดินเล่นในแคลิฟอร์เนีย ตำรวจเรียกมันว่าเป็นการโจมตีแบบสุ่ม และสันนิษฐานในเบื้องต้น ไม่น่าจะเกี่ยวกับกระแสความต่อต้านคนเอเชียที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ในสหรัฐฯแต่อย่างใด
เคอ เจี๋ย เมิ่ง (Ke Chieh Meng) วัย 64 ปี ออกไปเดินเล่นพร้อมกับสุนัขตัวเล็กๆ 2 ตัว ที่เมืองริเวอร์ไซด์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ตอนราวๆ 07.30 น.ของวันเสาร์ (3 เม.ย.) แต่ระหว่างนั้นเธอถูกแทงลงไปนอนกองกับพื้นท่ามกลางเลือดที่ไหลออกมา
เจ้าหน้าที่ตอบสนองสถานการณ์ฉุกเฉินพบเธอในสภาพกำลังนอนอยู่บนพื้น และพาตัว เมิ่ง ไปส่งยังโรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดแพทย์ยืนยันว่าเธอเสียชีวิตแล้ว
ดาร์ลีน สเตฟานี มอนโตยา วัย 23 ปี ถูกตำรวจระบุตัวในฐานะผู้ต้องสงสัยชั่วคราว เธอถูกจับกุมใกล้จุดเกิดเหตุและแจ้งข้อหาในสิ่งที่เจ้าหน้าที่ให้คำจำกัดความว่าเป็น “การโจมตีโดยไม่เลือกหน้า”
“ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเหยื่อถูกโจมตีเนื่องจากเชื้อชาติของเธอ” โฆษกกรมตำรวจริเวอร์ไซด์บอกกับนิวยอร์กโพสต์ เมื่อวันอาทิตย์ (4 เม.ย.) “เรากำลังพยายามค้นคว้าประวัติกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดของผู้ต้องสงสัย และประวัติสุขภาพจิตของเธอ” ถึงกระนั้นโฆษกรายนี้บอกว่า ทางตำรวจ “ยังไม่ปิดประตูสำหรับข้อสงสัยอื่นใดๆ”
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า มอนโตยา ถูกควบคุมตัวที่ศูนย์คุมขังโรเบิร์ต เพรสซีย์ ฐานต้องสงสัยฆาตกรรม และยังถูกตั้งข้อหาอีกกระทง ฐานเสพสารควบคุมพิเศษชนิดหนึ่ง และไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว
ก่อนหน้านี้ มอนโตยา เคยถูกจับหลายครั้ง โดยหนสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มีนาคม คราวนั้นเธอถูกตั้งข้อหาประทุษร้ายด้วยอาวุธอันตราย หลังโดนหล่าวหาโจมตีผู้หญิงคนหนึ่งด้วยสเก็ตบอร์ดใกล้ศูนย์กลางค้าท้องถิ่นแห่งหนึ่ง แต่เธอได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ต้องวางเงินประกันใดๆ สืบเนื่องจากข้อจำกัดโควิด-19
โฆษกกรมตำรวจริเวอร์ไซด์เผยว่าเหยื่อในคดีดังกล่าวเป็นผู้หญิงผิวขาว
(ที่มา: นิวยอร์กโพสต์)