xs
xsm
sm
md
lg

โหดร้าย! ลูกสาวประหารชีวิตแม่แท้ๆ กฎหมายอิหร่านอนุญาตให้แก้แค้นผู้ปกครอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(แฟ้มภาพจากเอเอฟพี)
หญิงชาวอิหร่านรายหนึ่งซึ่งเป็นนักโทษในคดีสังหารสามีของเธอ ถูกประหารชีวิตโดยลูกสาวของตนเองเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม ภายใต้กฎหมายโทษประหารเก่าแก่ฉบับหนึ่ง ซึ่งอนุญาตให้ลูกๆ แก้แค้นผู้ปกครองแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน

หลังจากอยู่ในห้องขังนานกว่า 13 ปี มาร์ยัม คาริมิ ถูกแขวนคอโดยลูกสาวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ณ เรือนจำกลางเมืองแรชต์ ประเทศอิหร่าน ตามรายงานของอิหร่าน อินเตอร์เนชันแนล ทีวี

สื่อมวลชนแห่งนี้รายงานว่า ลูกสาวรายนี้ซึ่งมีอายุ 6 ขวบตอนที่พ่อถูกฆ่า ปฏิเสธให้อภัยผู้เป็นแม่หรือยอมรับเงินชดเชยหนี้เลือดที่เรียกว่า “Diya” ทำให้ผู้เป็นแม่ต้องชดใช้กรรมที่ก่อไว้

คาริมิ ถูกตั้งข้อหาในรูปแบบการชดเชยความผิด หรือในสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านเรียกว่ากวิศอศ (Qisas) โดยมีเพียงเจ้าของสายเลือดหรือสมาชิกครอบครัวที่ใกล้ชิดเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ประหารชีวิตญาติของตัวเอง ซึ่งก็คือการฆ่าเพื่อรักษาเกียรติ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับโทษใดๆ เนื่องจากครอบครัวมักไม่ต้องการให้คนในครอบครัวถูกตัดสินโทษประหารชีวิตตามกระบวนการยุติธรรม

“ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา พวกเขาบอกกับเธอว่าทั้งพ่อและแม่ของเธอตายแล้ว แต่จำเป็นต้องบอกความจริงกับเธอไม่กี่สัปดาห์ก่อนการประหาร เพื่อเตรียมพร้อมด้านจิตใจให้เธอ” แหล่งข่าวบอกกับกลุ่มสิทธิมนุษยชน อิหร่านฮิวแมนไรท์ส (IHR)

มาห์มูด อามิรี โมกัดดัม ผู้อำนวยการของทางกลุ่มระบุว่า “กฎหมายของอิหร่าน ทำให้เด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งบิดาถูกฆาตกรรมเมื่อครั้งเธอยังเล็ก กลายเป็นผู้ประหารชีวิตมารดาของเธอเอง สาธารณรัฐอิสลามคือผู้ส่งเสริมความรุนแรงชั้นนำในสังคมอิหร่านทุกวันนี้”

อีบราฮิม บิดาของคาริมิ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมเช่นกัน และรายงานข่าวระบุว่าเจ้าหน้าที่พาตัวเขามาดูลูกสาวถูกแขวนคอด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลบางประการ เขาไม่โดนลงโทษประหารชีวิต

อารัม โบลันด์ปาซ นักเคลื่อนไหวและผู้สื่อข่าวของอิหร่าน อินเตอร์เนชันแนล ทีวี ระบุว่า “กว่า 4 ทศวรรษแห่งการล้างสมองตามโรงเรียน การลงโทษรุนแรงสุดขั้วในสังคมอิหร่าน และระบอบผู้ชายเป็นใหญ่ นั่นหมายความว่าลูกสาวของ คาริมิ ถูกเลี้ยงให้โตขึ้นมาเพื่อให้แน่ใจว่าการประหารชีวิตแม่ของเธอคือชัยชนะของผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นชัยชนะของผู้เป็นพ่อหรือชัยชนะของระบอบกดขี่”

“กวิศอศ ไร้มนุษยธรรม โหดร้ายและป่าเถื่อน ไม่สำคัญว่ามันจะเกิดขึ้นที่ไหนในโลก” เขากล่าว “สำหรับประเทศหนึ่งๆ ซึ่งให้ความสำคัญลำดับต้นๆ กับสิทธิของทารกที่ยังอยู่ในครรภ์ และเน้นย้ำว่าชีวิตคือปรากฏการณ์ที่มีค่าที่สุด แล้วรัฐอิสลามแห่งนี้สามารถยึดชีวิตหนึ่งจากใครบางคนในแนวทางที่เลวร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร”

(ที่มา : นิวยอร์กโพสต์)


กำลังโหลดความคิดเห็น