ฝรั่งเศสกำหนดมาตรการล็อกดาวน์ 1 เดือนในกรุงปารีส และพื้นที่ทางเหนือ ตามหลังการแจกจ่ายวัคซีนหยุดชะงัก และการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่เชื้อได้ง่ายกว่าเดิมหลายเท่า ซึ่งมันบีบให้ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ต้องเปลี่ยนแนวทางรับมือกับวิกฤตด้านสาธารณสุขระลอกใหม่
นับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ประธานาธิบดีรายนี้ ขัดขืนเสียงเรียกร้องจากเหล่านักวิทยาศาสตร์และสมาชิกบางส่วนในคณะรัฐบาล ให้ล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกรอบ โดยมาครงยืนกรานว่าจะทำทุกอย่างไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เพื่อเปิดเศรษฐกิจใหญ่สุดอันดับ 2 ของยูโรโซนแห่งนี้เท่าที่จะเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ดูเหมือนว่าเขาจะหมดทางเลือก เนื่องจากฝรั่งเศสและประเทศยุโรปอื่นๆ ระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าช่วงสั้นๆ
นายกรัฐมนตรี ฌอง กัสเท็กซ์ ระบุว่า ฝรั่งเศสกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอก 3 ด้วยตัวกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร เวลานี้คิดเป็นสัดส่วน 75% ของเคสผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมด ขณะเดียวกัน หออภิบาลผู้ป่วยหนักก็อยู่ในภาวะตึงเครียดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปารีส ซึ่งมีอัตราอุบัติการณ์ข้ามผ่านระดับผู้ติดเชื้อ 400 คนต่อประชากรทุกๆ 100,000 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“โรคระบาดใหญ่กำลังเลวร้ายลง ความรับผิดชอบของเราตอนนี้คือไม่ปล่อยให้มันเล็ดลอดจากการควบคุมของเรา” กัสเท็กซ์แถลงกับผู้สื่อข่าว
ฝรั่งเศสรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ 35,000 คน ในวันพฤหัสบดี (18 มี.ค.) และมีคนไข้โควิด-19 ในห้องไอซียูในกรุงปารีส มากกว่าช่วงสูงสุดของการแพร่ระบาดระลอกสอง “ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ต้องยกระดับข้อจำกัดต่างๆ” กัสเท็กซ์ระบุ
“4 สัปดาห์ คือช่วงเวลาที่เรากำหนดบังคับใช้มาตรการต่างๆ เพื่อก่อผลกระทบอย่างพอเพียง มันคือเวลาที่เราจำเป็นต้องบรรลุเป้าหมายในการฉีดวัคซีนกลุ่มคนผู้อ่อนแอที่สุด”
มาตรการล็อกดาวน์จะเริ่มมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนของวันศุกร์ (19 มี.ค.) เป็นต้นไป ในจังหวัดต่างๆ 16 แห่ง ที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด ร้านตัดผม ห้างขายเสื้อผ้าและเฟอร์นิเจอร์จะต้องปิดให้บริการ แต่ร้านขายหนังสือและสินค้าจำเป็นอื่นๆ ยังสามารถเปิดทำการได้ตามเดิม
โรงเรียนจะยังคงเปิดการเรียนการสอนเช่นกัน และประชาชนจะได้รับอนุญาตให้ออกมาออกกำลังกายกลางแจ้งภายในรัศมีไม่เกิน 10 กิโลเมตรจากบ้านพัก อย่างไรก็ตาม จะไม่อนุญาตให้เดินทางออกนอกพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วง หากไม่มีเหตุผลที่จำเเป็นจริงๆ “ออกไปข้างนอกได้ แต่ไม่ใช่ไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ” นายกรัฐมนตรีระบุ
กัสเท็กซ์ ระบุว่า ฝรั่งเศสจะกลับมาฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าอีกรอบ หลังจากองค์การยาแห่งยุโรป (อีเอ็มเอ) ยืนยันว่า มันมีความปลอดภัย
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนต่อวัคซีนสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน ซึ่งสำคัญยิ่งต่อเป้าหมายสร้างภูมิคุ้มกันของฝรั่งเศส กัสเท็กซ์บอกว่าเขาจะเข้ารับการฉีดวัคซีนในวันศุกร์ (19 มี.ค.)
แม้ มาครง ไม่ได้ออกคำสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศ แต่มาตรการล็อกดาวน์อาจถูกขยายครอบคลุมแคว้นอื่นๆ หากมีความจำเป็น และอาจกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ภูมิภาคปารีสมีสัดส่วนคิดเป็นเกือบ 1 ใน 5 ของจำนวนประชากร และมีสัดส่วนคิดเป็น 30% ในกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศ
มาตรการเคอร์ฟิวยามค่ำคืนทั่วประเทศซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธัวาคม ยังคงบังคับใช้อยู่ แต่ลดกรอบเวลาลง เริ่มต้นช้ากว่าเดิม 1 ชั่วโมง ณ เวลา 19.00 น.
กัสเท็กซ์ ระบุว่า รัฐบาลไม่เสียใจที่ไม่ล็อกดาวน์ให้เร็วกว่านี้ “มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในเดือนมกราคม ไม่อย่างนั้นเราจะต้องเหลืออดอยู่กับมาตรการล็อกดาวน์นาน 3 เดือน เราทำได้ดีที่ที่ไม่ทำแบบนั้น”
(ที่มา: รอยเตอร์)