xs
xsm
sm
md
lg

In Clip: “ไบเดน” เตรียมประกาศจัดการริยาดวันนี้ คู่หมั้นคาช็อกกียัน “ต้องลงโทษมกุฎราชกุมารซาอุฯทันที”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - ผู้นำสหรัฐฯวันเสาร์ (27 ก.พ.) ยืนยัน รัฐบาลสหรัฐฯจะแถลงในวันจันทร์ (1 มี.ค.) ถึงมาตรการที่มีต่อซาอุดีอาระเบีย หลังรายงานข่าวกรองลับสหรัฐฯ ชี้ มกุฎราชกุมารซาอุฯ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ทรงประทานอนุญาตให้สังหารอดีตนักข่าวหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ จามาล คาช็อกกี ขณะที่คู่หมั้นชาวตุรกี ยืนยันต้องลงโทษผู้อยู่เบื้องหลังทันที

รอยเตอร์รายงานวันนี้ (1 มี.ค.) ว่า รัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะจากหน้าบทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ที่ชี้ว่า ไบเดนสมควรใช้มาตรการหนักต่อมกุฎราชกุมารซาอุฯ ที่ในเวลานี้ไม่ถูกสั่งคว่ำบาตร ถึงแม้ว่าพระองค์จะมีชื่ออยู่ในรายงานข่าวกรองลับสหรัฐฯว่า พระองค์เป็นผู้สั่งลอบสังหาร จามาล คาช็อกกี

ไบเดนตอบนักข่าวเกี่ยวกับการลงโทษเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ที่ในเวลานี้เป็นเจ้าผู้ปกครองซาอุดีอาระเบียไปโดยกลายๆ ว่า “จะมีการประกาศเกิดขึ้นในวันจันทร์ว่าทางเราจะจัดการกับซาอุดีอาระเบียอย่างไร” แต่ทว่าเขาไม่แสดงความเห็นเพิ่มเติมในรายละเอียด

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวออกมายืนยันว่า จะยังไม่มีมาตรการสำคัญออกมาให้เห็น

“รัฐบาลสหรัฐฯได้ออกมาตรการใหม่เป็นวงกว้างไปแล้วเมื่อวันศุกร์ (26 ก.พ.) ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯได้อ้างไปถึงข้อมูลในวันจันทร์ และทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯจะแถลงอธิบายลงในรายละเอียดถึงมาตรการเหล่านั้น แต่ไม่ใช่การประกาศมาตรการใหม่” แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯแถลง

ทั้งนี้ ในบรรดามาตรการลงโทษที่ออกมาในวันศุกร์ (26) ของสหรัฐฯรวมไปถึงการแบนวีซ่าเข้าสหรัฐฯของเจ้าหน้าที่ซาอุฯที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกันการเสียชีวิตของคาช็อกกี อดีตนักข่าวหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ชาวซาอุฯแต่ลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ เขาเสียชีวิตที่สถานกงสุลซาอุฯ เมืองอิสตันบูล เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ปี 2018 ขณะกำลังเข้าไปติดต่อขอเอกสารยืนยันเพื่อแต่งงานกับคู่หมั้นสาวชาวตุรกี ฮาติซ เซนจิซ (Hatice Cengiz)

และมาตรการลงโทษวันศุกร์ (26) ยังรวมไปถึงการคว่ำบาตรคนอื่นๆ รวมอดีตผู้ช่วยหัวหน้าข่าวกรองซาอุดีอาระเบีย มีการสั่งห้ามเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของบุคคลเหล่านี้ในสหรัฐฯ และห้ามพลเมืองสหรัฐฯเกี่ยวข้องกับบุคคลเหล่านี้

หนังสือพิมพ์ซาอุดีอาระเบียวันอาทิตย์ (28 ก.พ.) ออกมาเตือนสหรัฐฯอย่างล้ำเส้น รังแกพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ของตัวเอง

“อเมริกาไม่มีสิทธิ์ที่จะรังแกพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค และไม่อยู่ในผลประโยชน์ของตัวเองในความแตกต่างทางภายในทำร้ายผลประโยชน์ของตัวเองระดับภูมิภาคและของภูมิภาคเหล่านั้น” หนังสือพิมพ์อัล จาซิราฮ์ (Al Jazirah) กล่าวในฉบับวันอาทิตย์ (28 ก.พ.) เกิดขึ้นเมื่อไบเดนตัดสินใจอนุมัติให้เปิดเผยรายงานการลอบสังหารคาช็อกกีที่ถูกแช่แข็งไว้โดยอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งใกล้ชิดกับราชวงศ์ซาอุฯ

ด้านหนังสือพิมพ์ โอคาซ (Okaz) กล่าวว่า “เราต้องการทำให้ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งร่วมกันแข็งแกร่ง โดยที่ไม่ต้องการให้เกี่ยวพันไปถึงราชวงศ์ ระบบยุติธรรมและการตัดสินของพวกเราถือเป็นเส้นตาย”

อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์กล่าวว่า คู่หมั้นชาวตุรกีของคาช็อกกียืนยันอย่างหนักแน่นผ่านทวิตเตอร์วันจันทร์ (1) ว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังต้องได้รับการลงโทษในทันที

โดยเธอกล่าวว่า “มกุฎราชกุมารซาอุฯ...สมควรต้องได้รับการลงโทษโดยไม่สามารถเลื่อนออกไปได้” และเซนจิซกล่าวต่อว่า “ซึ่งหากพระองค์ไม่ถูกลงโทษแล้ว มันจะกลายเป็นสัญญาณอย่างถาวรที่ชี้ว่า คนร้ายที่แท้จริงสามารถลอยนวลจากคดีฆาตกรรมและสามารถทำอันตรายต่อเราทุกคน และจะยังคงเป็นบาดแผลต่อมนุษยธรรมของพวกเราตลอดไป”





กำลังโหลดความคิดเห็น