อดีตผู้นำโซเวียต มิคาอิล กอร์บาชอฟ ออกมาเรียกร้องในวันเสาร์ (27) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ควรผลักดันให้มีการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์มากขึ้น
ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นสูงระหว่างสองชาติภายใต้อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บวกกับข้อกล่าวหาการโจมตีทางไซเบอร์และความไม่ลงรอยกันอีกมากมาย
แต่ไม่นานหลังจากไบเดนเข้ารับตำแหน่ง สองมหาอำนาจก็ขยายข้อตกลงที่จำกัดหัวรบนิวเคลียร์ฝ่ายละ 1,550 หัว ซึ่งปูตินชื่นชมพัฒนาการด้านบวกนี้
กอร์บาชอฟ บอกสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ว่า สองผู้นำซึ่งคุยกันทางโทรศัพท์ หลังจากไบเดนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้ว ควรพบกันและคุยกันเรื่องการควบคุมอาวุธให้มากขึ้น
“ผมเชื่อว่า มันเป็นเรื่องสำคัญที่สองประธานาธิบดีต้องพบกัน ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่า มันมีความจำเป็นที่จะพบกันและเจรจา” เขากล่าว
“แน่นอนว่า เรื่องสำคัญคือการเลี่ยงสงคราม มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ปัญหาฝ่ายเดียว การพบกันจึงมีความจำเป็น”
“หากความปรารถนาที่จะบรรลุการปลดอาวุธและสร้างเสริมความมั่นคงมีความสำคัญกว่า มันก็ยิ่งมีโอกาสสำเร็จได้”
เมื่อต้นปี ชายวัย 89 ปีคนนี้ เคยเรียกร้องให้สองฝ่ายปรับปรุงความสัมพันธ์ และระบุว่า “สถานการณ์ปัจจุบันน่ากังวลอย่างยิ่ง”
เขากล่าวว่า เมื่อข้อตกลงนิวเคลียร์ New START ถูกขยายขอบเขตออกไป “ข้อตกลงที่มีความทะเยอทะยานมากกว่านี้” ก็อาจสามารถเจรจากันได้
ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ วอชิงตันถอนตัวจากข้อตกลงระหว่างประเทศที่สำคัญสองฉบับ ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านและข้อตกลงเปิดท้องฟ้า (Open Skies) และถอนตัวจากควบคุมอาวุธกับรัสเซีย สนธิสัญญากำลังนิวเคลียร์พิสัยกลาง (Intermediate-Range Nuclear Forces Treaty)