น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างประกาศสำหรับสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์ และให้กระทรวงการต่างประเทศ โดยคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก จัดทำและนำส่งประกาศดังกล่าวต่อเลขาธิการสหประชาชาติ โดยหากแก้ไขร่างประกาศในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือขัดต่อผลประโยชน์ของไทย อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาดำเนินการ โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีก
สำหรับร่างประกาศสำหรับสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์ดังกล่าว เป็นพันธกรณีที่ไทยต้องดำเนินการตามที่ได้ลงนามและให้สัตยาบันไปแล้วเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ประเทศแรกที่ได้ลงนามและให้สัตยาบัน และฮอนดูรัสเป็นรัฐผู้ให้สัตยาบันลำดับที่ 50 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2563 ส่งผลให้สนธิสัญญามีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 ดังนั้น ไทยจึงต้องเร่งเสนอร่างประกาศฯ เพื่อให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญาซึ่งกำหนดให้ไทยต้องนำส่งประกาศต่อเลขาธิการสหประชาชาติภายใน 30วัน ซึ่งตรงกับวันที่ 21กุมภาพันธ์ 2564
น.ส.ไตรศุลี ชี้แจงเพิ่มเติมว่า สาระสำคัญของร่างประกาศฯ คือ การแจ้งว่า ไทยไม่เคยเป็นเจ้าของและไม่เป็นเจ้าของครอบครอง หรือควบคุมอาวุธนิวเคลียร์หรือระเบิดนิวเคลียร์อื่นๆ รวมถึงไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ หรือระเบิดนิวเคลียร์อื่นๆ ในอาณาเขตของราชอาณาจักรไทยหรือ ณ ที่ใดภายใต้เขตอำนาจหรือการควบคุมของราชอาณาจักรไทยที่รัฐอื่นเป็นเจ้าของ ครอบครอง หรือควบคุม