เครื่องบินโดยสารสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส เจอปัญหาเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งขัดข้องและไฟลุกไหม้เมื่อวันเสาร์ (20 ก.พ.) ที่ผ่านมา ไม่นานหลังทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด เพื่อไปยังเมืองโฮโนลูลู ในรัฐฮาวาย โดยที่มีเศษชิ้นส่วนจำนวนมากหลุดออกตกลงไปในเขตที่อยู่อาศัยเบื้องล่าง ก่อนจะสามารถเลี้ยวกลับมาร่อนลงจอดฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย
คลิปวิดีโอถ่ายจากภายในเครื่องบินลำนี้ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารจำนวน 231 คนและลูกเรืออีก 10 คน แสดงให้เห็นเครื่องยนต์ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ปีกข้างขวาของเครื่องโบอิ้ง 777-200 ลำนี้ ได้เกิดไฟลุกไหม้และมีอาการโคลงเคลง ตัวฝาครอบเครื่องยนต์ได้หลุดหายไปหมด ขณะเครื่องบินกำลังบินอยู่เหนือภูมิประเทศรกร้างไม่มีต้นไม้หรือพืชพรรณ
พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบบอกว่า ไม่มีผู้บาดเจ็บล้มตายใดๆ ทั้งบนเครื่องบินและทางภาคพื้นดิน
“ผมขอพูดอย่างซื่อๆ ตรงๆ เลยนะว่าผมคิดว่าเรากำลังจะตายแล้วละในตอนนั้น –เพราะเราเริ่มดำดิ่งสูญเสียความสูงทันทีหลังเกิดการระเบิดขึ้น” เดวิด เดลูเชีย ผู้โดยสารคนหนึ่งบอกกับสื่อ เดอะ เดนเวอร์ โพสต์ “ผมคว้ามือเมียผมเอาไว้และบอกว่า ‘พวกเราจบเห่แล้ว’”
ขณะที่สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส ออกคำแถลงกล่าวว่า “เที่ยวบิน ยูเอ328 จากเดนเวอร์ไปโฮโนลูลู ประสบกับเครื่องยนต์ขัดข้องไม่นานนักหลังออกเดินทาง แต่สามารถบินกลับมายังเดนเวอร์ได้อย่างปลอดภัย โดยมีพวกเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินรอรับอยู่ตามมาตรการระวังป้องกันไว้ก่อน”
“ลูกค้าที่เดิมอยู่บนเที่ยวบิน ยูเอ328 ขณะนี้ส่วนใหญ่กำลังอยู่ในเส้นทางมุ่งสู่โฮโนลูลูบนเที่ยวบินใหม่” คำแถลงกล่าวต่อ พร้อมกับบอกว่าสำหรับผู้ที่ไม่ปรารถนาจะเดินทางต่อทันที ก็ได้รับการดูแลให้เข้าพักในโรงแรม
ในบันทึกเสียงแจ้งเหตุร้าย ซึ่งเผยแพร่ทางเว็บไซต์ LiveATC ที่คอยออกอากาศการติดต่อสื่อสารของการจราจรทางอากาศทั้งหลาย นักบินของเที่ยวบินที่เกิดปัญหานี้ ได้แจ้งหอบังคับการบิน ขออนุญาตฉุกเฉินเพื่อเลี้ยวกลับไปลงที่เดนเวอร์
“328-เอ้อ-อาการหนัก เราเจอปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง ต้องเลี้ยวกลับ เมย์เดย์ เมย์เดย์” เขากล่าว ทั้งนี้ เมย์เดย์ เป็นคำส่งสัญญาณว่าประสบเหตุร้ายแรงต้องการความช่วยเหลือ ทว่าน้ำเสียงของเขาไมได้มีอาการว่าตื่นตระหนก
เวลาเดียวกันนั้น พวกชาวบ้านในย่านบรูมฟิลด์ ซึ่งอยู่บริเวณชานเมืองของเดนเวอร์ ได้พบชิ้นส่วนขนาดใหญ่เป็นจำนวนมากของเครื่องบิน ตกลงกระจัดกระจายรอบๆ ชุมชนของพวกเขา รวมทั้งชิ้นหนึ่งซึ่งเป็นเศษโลหะทรงกลมขนาดยักษ์ที่ตกลงมาในสนามหญ้าของ เคอร์บี คลีเมนต์ส
“มันค่อนข้างจะรุนแรงเอามากๆ” คลีเมนต์ส บอกกับโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น “มันตกลงมาตรงเผงใส่หลังคารถกระบะของผมแล้วหล่นลงไปข้างล่าง” เขากล่าว และยังเล่าว่ามีเศษซากชิ้นใหญ่อีกชิ้นหนึ่งหล่นใส่หลังคาบ้านของเพื่อนบ้านคนหนึ่งทำให้เกิดรูขนาด 5 ฟุต (1.5 เมตร)
ด้านสำนักงานบริหารการบินสหรัฐฯ (FAA) แถลงว่า ได้ทราบเรื่องมีรายงานเศษซากหล่นลงมาในบริเวณใกล้เคียงกับเส้นทางบินของเครื่องบินลำเกิดเหตุแล้ว และทางสำนักงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติ (NTSB) จะดำเนินการสอบสวนกันต่อไป
สำหรับตำรวจบลูมฟิลด์ได้ทวีตข้อความว่า หากใครเจอเศษซากเหล่านี้ ขออย่าไปแตะต้องหรือเคลื่อนย้าย เนื่องจากทาง NTSB ต้องการให้เศษซากทุกชิ้นอยู่ในที่เดิมของมันเพื่อประโยชน์ในการสอบสวน
โบอิ้ง 777-200 ลำนี้มีอายุ 26 ปี ใช้เครื่องยนต์ แพรตต์ แอนด์ วิตนีย์ PW4000 จำนวน 2 เครื่อง บริษัทโบอิ้งบอกว่าพวกที่ปรึกษาทางเทคนิคของบรษัทจะช่วยเหลือการสอบสวนของ NTSB ส่วนสายการบินยูไนเด็ตก็ให้คำมั่นที่จะให้ความร่วมมือเช่นกัน
เครื่องยนต์ของเครื่องบินเกิดขัดข้องเป็นปัญหาที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นนัก แต่มีศักยภาพที่จะสร้างอันตรายอย่างร้ายแรง เมื่อเกิดกรณีที่ส่วนซึ่งกำลังหมุนอยู่อย่างเช่น ใบพัด เจาะทะลวงตัวครอบด้านนอก
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 โบอิ้ง 777 รุ่นเก่ากว่านี้แต่ใช้งานโดยยูไนเต็ดแอร์ไลน์สเช่นกัน รวมทั้งอยู่ในเส้นทางมุ่งสู่โฮโนลูลู ก็เจอปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องเมื่อฝาครอบเครื่องยนต์ชิ้นหนึ่งได้หลุดออกมาในช่วงก่อนลงจอดราว 30 นาที แต่เครื่องบินยังคงสามารถร่อนลงอย่างปลอดภัย เหตุคราวนั้น NTSB วินิจฉัยว่าเนื่องมาจากใบพัดเครื่องบินมีรอยร้าวยาวตลอดทั้งใบพัด
จากเหตุคราวนั้น แพรตต์ แอนด์ วิตนีย์ ซึ่งปัจจุบันเป็นกิจการหนึ่งในเครือเรย์ธีออน ได้ตรวจสอบทบทวนบันทึกการตรวจสอบใบพัดเครื่องยนต์ PW4000 ทั้งหมดที่ได้กระทำไปก่อนหน้านั้น ขณะที่ FAA ออกคำสั่งฉบับหนึ่งในเดือนมีนาคม 2019 บังคับให้ดำเนินการตรวจสอบใบพัดเครื่องยนต์ PW4000 ในทันที รวมทั้งต้องดำเนินการตรวจสอบซ้ำอีกเป็นระยะๆ
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)
