เมืองใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ต้องเข้าสู่ภาวะล็อกดาวน์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเผชิญการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับสายพันธุ์จากสหราชอาณาจักร ซึ่งแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิม จากคำยืนยันของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในวันจันทร์ (15 ก.พ.) ถือเป็นครั้งแรกที่นิวซีแลนด์พบตัวกลายพันธุ์นี้ในระดับท้องถิ่น
พลเมืองเกือบ 2 ล้านคนของโอ๊คแลนด์ต้องเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์ 3 วัน นับตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ (14 ก.พ.) หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ 3 รายในเมืองแห่งนี้ ซึ่งเป็นคนในครอบครัวใกล้ชิด และจากการศึกษาหาลำดับคู่เบสในสาย DNA (genome sequencing)ของ 2 เคส พบว่าพวกเขาติดเชื้อสายพันธุ์ B1.1.7
เจ้าหน้าที่บอกว่ายังไม่ทราบที่มาที่ไปของ 2 เคสที่ติดเชื้อสายพันธุ์ B1.1.7 พร้อมบอกว่ากำลังตรวจสอบฐานข้อมูลทางพันธุกรรมทั้งหมด (genome) ในระดับนานาชาติ เพื่อหาความสอดคล้องต้องกัน
“เราทำถูกต้องแล้วที่ตัดสินใจใช้มาตรการระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเราสันนิษฐานว่ามันอาจเป็นหนึ่งในตัวกลายพันธุ์ที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าเดิมมาก” นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น กล่าวในโฟสต์เฟซบุ๊กไลฟ์ในวันจันทร์ (15 ก.พ.)
คำสั่งล็อกดาวน์โอ๊กแลนด์ถือเป็นมาตรการล็อกดาวน์ครั้งแรกของนิวซีแลนด์ในรอบ 6 เดือน หลังจากมาตรการล็อกดาวน์เข้มข้นในช่วงต้นๆ ของโรคระบาดใหญ่ ดูเหมือนจะช่วยขจัดการติดเชื้อในชุมชนได้เป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้ประเทศแห่งนี้ถูกยกว่าเป็นชาติที่มีผลงานดีที่สุดในดัชนีของสถาบันโลวีของออสเตรเลีย จากทั้งหมดเกือบ 100 ประเทศ บนพื้นฐานของการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
การแพร่ระบาดระลอกใหม่กระตุ้นให้ออสเตรเลีย ชาติเพื่อนบ้าน ระงับข้อตกลงที่อนุญาตให้ชาวนิวซีแลนด์เดินทางเข้าออสเตรเลียโดยไม่ต้องกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน
กระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ระบุในวันจันทร์ (15 ก.พ.) ไม่พบเคสการติดเชื้อในระดับชุมชนรายใหม่ แต่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 คนตามศูนย์กักกันโรคต่างๆ ตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ประเทศแห่งนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น 2,330 ราย ในนั้นเสียชีวิต 25 คน ทว่าเวลานี้เหลือเคสที่ยังรักษาตัวอยู่เพียงแค่ 47 คน
ในโอ๊กแลนด์ พบเห็นประชาชนต่อแถวยาวเหยียดบริเวณด้านนอกซูเปอร์มาร์เกตต่างๆ หลังมีการประกาศล็อกดาวน์เมื่อวันอาทิตย์ (14 ก.พ.) เนื่องจากผู้คนพยายามกักตุนอาหาร ก่อนหน้าการบังคับใช้คำสั่งซึ่งกำหนดให้พวกเขาอยู่แต่ในบ้าน ยกเว้นแต่มีความจำเป็นจริงๆ เช่นจับจ่ายซื้อของหรือไปทำงาน
สำหรับการเตือนภัยโควิด-19 ในที่อื่นๆ ทั่วประเทศนั้น ถูกปรับขึ้นมา 1 ขั้นสู่ระดับ 2 ในนั้นรวมถึงจำกัดการรวมตัวของผู้คน ห้ามเกินกว่า 100 คน
(ที่มา : รอยเตอร์)