แผ่นดินไหวรุนแรงสั่นสะเทือนนอกชายฝั่งทางตะวันออกของญี่ปุ่นเมื่อวันเสาร์ (13 ก.พ.) ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคนและเกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง แต่ไม่มีความเสียหายร้ายแรงใดๆ และไม่ประกาศเตือนภัยสึนามิ ราว 1 เดือนก่อนถึงวาระครบรอบ 10 ปีแผ่นดินไหวรุนแรงและมหันตภัยสึนามิเล่นงานพื้นที่เดียวกัน ซึ่งคราวนั้นมีผู้เสียชีวิตและสูญหายหลายหมื่นคน และก่อภัยพิบัตินิวเคลียร์ครั้งเลวร้าย
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นรายงานว่า แผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.3 เกิดขึ้นตอนเวลาราวๆ 23.00 น.(ตรงกับเมืองไทย 21.00 น.) มีศูนย์กลางนอกชายฝั่งจังหวัดฟุกุชิมะ ลึกลงไปใต้ทะเล 60 กิโลเมตร โดยแรงเขย่าของมันทำอาคารต่างๆ สั่นไหวเป็นระยะเวลาหนึ่ง
บ้านเรือนและสำนักงานต่างๆ ในกรุงโตเกียว ซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร สั่นไหวและเอนไปมาเช่นกัน แต่ไม่มีการประกาศเตือนสึนามิแต่อย่างใดๆ จากการเปิดเผยของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อยหลายสิบคน
ช่างภาพของสำนักข่าวรอยเตอร์ซึ่งพักอยู่ในฟุกุชิมะ เล่าว่าห้องพักของเขาซึ่งอยู่บริเวณชั้น 10 ของโรงแรม เกิดสั่นไหวเป็นระยะเวลาหนึ่ง และมีชายคนหนึ่งที่โรงแรมถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังเกิดหกล้มศีรษะฟาดเข้ากับประตู แต่ชายคนดังกล่าวยังไม่ถึงขั้นต้องหามขึ้นเปลใดๆ
ภาพข่าวสถานีโทรทัศน์ยังพบเห็นกระจกหน้าร้านของร้านค้าต่างๆ แตกกระจัดกระจาย
สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่า เบื้องต้นประชาชนราว 950,000 ครอบครัวอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าใช้ โดยศูนย์กลางของเหตุไฟฟ้าดับครั้งนี้อยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ในนั้นรวมถึงฟุกุชิมะและจังหวัดใกล้เคียงอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ทางโตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ คอมปานี โฮลดิ้ง ระบุไม่พบความผิดปกติใดๆ ที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิและไดนิ หรือโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์คาฮิวาซากิ-คาริวะ พร้อมบอกว่าไม่พบการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในระดับกัมมันตภาพรังสีรอบๆ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เหล่านั้น เช่นเดียวกับที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์โอนากาวา
แผ่นดินไหวสั่นสะเทือนนอกชายฝั่งฟุกุชิมะครั้งนี้ มีขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนวาระครบรอบ 10 ปีแผ่นดินไหวใหญ่เขย่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม กระพือมหัตภัยสึนามิซัดถล่ม คร่าชีวิตผู้คนและสูญหายหลายหมื่นคน พร้อมก่อวิกฤตนิวเคลียร์ครั้งเลวร้ายสุดของโลกในรอบ 25 ปี ที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ฟุกุชิมะ ไดอิจิ
(ที่มา : รอยเตอร์)