“แอสตราเซเนกา” จะผลิตวัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากกว่า 90 ล้านโดสในญี่ปุ่น จากการเปิดเผยของโฆษกระดับสูงของรัฐบาลในวันพฤหัสบดี (28 ม.ค.) ความเคลื่อนไหวที่มีขึ้นท่ามกลางความกังวลว่าประเทศแห่งนี้จะมีวัคซีนเพียงพอสำหรับเริ่มฉีดวัคซีนแก่ประชาชนหรือไม่ หลังประสบปัญหาล่าช้าก่อนหน้านี้
คัตสึโนบุ โคตะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น บอกกับผู้สื่อข่าวว่า บริษัทผู้ผลิตยาสัญชาติสหราชอาณาจักรยืนยันกับกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นว่าจะผลิตวัคซีนปริมาณมากในชาติเอเชียแห่งนี้ “เราเชื่อว่ามันสำคัญมากที่สามารถผลิตวัคซีนได้ภายในประเทศ”
ญี่ปุ่นมีแผนเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ในช่วงหลายเดือนกุมภาพันธ์ โดยเป็นวัคซีนของไฟเซอร์ อิงก์ ที่จะฉีดให้บรรดาเจ้าหน้าที่แพทย์แถวหน้า
อย่างไรก็ตาม กำหนดการของญี่ปุ่นถือว่าล้าหลังบรรดาชาติเศรษฐกิจหลักอื่นๆ ของโลกค่อนข้างมากในการเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 สืบเนื่องจากพวกเขาต้องพึ่งพิงผู้ผลิตยาจากต่างแดน และมีข้อบังคับกำหนดไว้ว่าวัคซีนต้องผ่านการทดลองภายในประเทศเสียก่อน
ญี่ปุ่น เตรียมซื้อวัคซีนที่พัฒนาโดยแอสตราเซเนกา และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด 120 ล้านโดส ขณะที่หนังสือพิมพ์นิกเกอิรายงานเมื่อวันพุธ (27 ม.ค.) ว่าในจำนวนดังกล่าว มีอยู่ 90 ล้านโดสที่จะผลิตในญี่ปุุ่น ส่วนที่เหลือจะเป็นการนำเข้า
แอสตราเซเนกา เริ่มทำการทดลองวัคซีน AZD1222 ในญี่ปุ่นเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว และจับมือกับ ไดอิจิ ซังเคียว (Daiichi Sankyo Co), เจซีอาร์ ฟาร์มาซูติคอลส์ และพันธมิตรท้องถิ่นอื่นๆ สำหรับผลิตและแจกจ่ายวัคซีน
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ แอสตราเซเนกายังไม่ได้ยื่นขออนุมัติวัคซีนของพวกเขาในญี่ปุ่น แม้การทดลองภายในประเทศของพวกเขานั้นเริ่มต้นก่อนวัคซีนของไฟเซอร์ด้วยซ้ำ ซึ่งในเรื่องนี้ทางสำนักข่าวรอยเตอร์ได้สอบถามไปยังแอสตราเซเนกา แต่ทว่ายังไม่ได้รับคำตอบ
ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับอุปสรรคทางโลจิสติกส์ใหญ่หลวง ที่พวกผู้เชี่ยวชาญบางคนมมองว่าจะทำให้การฉีดวัคซีนแก่ประชาชนส่วนใหญ่ทำได้ยาก ในขณะที่พวกเขามีแผนเปิดฉากกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ในกรุงโตเกียว ในเดือนกรกฎาคมนี้
(ที่มา : รอยเตอร์)