มีประชาชนชาว 125 คนสูญหาย ทางเหนือของอินเดีย หลังธารน้ำแข็งหิมาลัยแตกและซัดถล่มเขื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็กแห่งหนึ่งจนพังเมื่อวันอาทิตย์ (7 ก.พ.) ก่อกระแสน้ำเชี่ยวกรากขนาดมหึมาไหลตามทางน้ำ ส่งผลให้ประชาชนตามหมู่บ้านต่างๆ ที่อยู่ปลายน้ำต้องอพยพหนีตาย
ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเปิดเผยว่า กระแสคลื่นน้ำ หินและดิน ไหลบ่าซัดถล่มเขื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำ หลังจากธารน้ำแข็งหิมาลัยเกิดแตกออกและไหลทะลักลงไปตามแถบหุบเขาริชิกังกา ในแถบเทือกเขาของรัฐอุตตราขัณฑ์
“มันมาเร็วมาก ไม่มีเวลาแจ้งเตือนทุกคน” ซันเจย์ ซิงห์ รานา ซึ่งพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านไรนี บริเวณต้นแม่น้ำ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ “ผมรู้สึกถึงขั้นว่าเราอาจถูกน้ำซัดไปด้วย”
ตรีเวนดรา ซิงห์ ราวัต มุขมนตรีรัฐอุตตราขัณฑ์ เผยว่า มีประชาชน 125 คนสูญหาย แต่จำนวนอาจเพิ่มกว่านี้ และจนถึงตอนนี้เก็บกู้ร่างไร้วิญญาณได้แล้ว 7 ศพ
ภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นห่างจากกรุงนิวเดลี ไปทางเหนือราว 500 กิโลเมตร
ก่อนหน้านี้ โอม ประกาส เลขานุการมุขมนตรีรัฐ แสดงความกังวลว่า อาจมีชาวบ้านเสียชีวิตราว 100-150 คน โดยในบรรดาผู้สูญเสียนั้น ส่วนใหญ่เป็นคนงานของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ 13.2 MW ริชิกังกา ซึ่งถูกธารน้ำแข็งที่แตกออกมาซัดถล่มจนพัง
ภาพที่แชร์บนสื่อสังคมออนไลน์โดยชาวบ้านท้องถิ่น พบเห็นกระแสน้ำเชี่ยวกรากซัดถล่มเขื่อนริชิกังกาจนแตก และกวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทาง และมีแกะอย่างน้อยๆ 180 ตัวถูกซัดหายไปกับกระแสน้ำ
นอกจากนี้ แล้ววิดีโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งทางรอยเตอร์ยังไม่ยืนยันว่าเป็นของจริงหรือไม่ พบเห็นกระแสน้ำกำลังถาโถมผ่านที่ตั้งของเขื่อนขนาดเล็ก ซัดอุปกรณ์ก่อสร้างลอยหายไป
กระทรวงเพื่อมาตุภูมิแห่งรัฐบาลกลางอินเดีย เปิดเผยหลังจากประชุมคณะกรรมการวิกฤตแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย บรรดาเจ้าหน้าที่ระดัยสูง ว่า มีประชาชน 12 คนติดอยู่ในอุโมงค์แห่งหนึ่ง แต่ได้รับความช่วยเหลือออกมาแล้ว และยังคงเดินหน้าพยายามช่วยเหลือคนอื่นๆ ที่ติดในอุโมงค์อีกแห่ง
“อินเดียยืนหยัดอยู่ข้างอุตตราขัณฑ์ และประชาชนทั้งประเทศภาวนาให้ทุกคนที่นั่นปลอดภัย” นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี เขียนบนทวิตเตอร์
NTPC รัฐวิสาหกิจสาธารณูปโภค บอกว่า เหตุธารน้ำแข็งถล่มก่อความเสียหายบางส่วนแก่โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ Tapovan Vishnugad ของพวกเขา ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและด้านล่างของแม่น้ำ ทั้งนี้ NTPC ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ โดยเพียงแต่บอกว่าจะคอยจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพหลายลำบินวนอยู่เหนือพื้นที่เกิดเหตุ และทหารถูกส่งเข้าประจำการเพื่อช่วยเหลือภารกิจบรรเทาภัยและกู้ภัย ในขณะที่รัฐอุตตรประเทศ ซึ่งอยู่ติดกันและเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของอินเดีย ประกาศเตือนภัยขั้นสูงตามพื้นที่ต่างๆ ริมแม่น้ำ
ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าอะไรเป็นตัวจุดชนวนธารน้ำแข็งถล่ม เนื่องจากมันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่ใช่ฤดูอุทกภัย หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิถุนายน 2013 ฝนตกหนักเป็นสถิติในรัฐอุตตราขัณฑ์ เคยก่ออุทกภัยเลวร้าย คร่าชีวิตชาวบ้านเกือบ 6,000 คน
หายนะครั้งนั้นได้รับสมญานามว่า “สึนามิหิมาลัย” เพราะว่ามันปลดปล่อยกระแสน้ำเชี่ยวกรากในพื้นที่ภูเขา ซัดพาเอาโคลนและกินบดขยี้สิ่งต่างๆ ที่อยู่ตามเส้นทางเบื้องล่าง ฝังบ้านเรือนหลายหลังจมอยู่ใต้โคลน ซัดถนนและสะพานขาด อาคารหลายแห่งลอยไปตามกระแสน้ำ
อุมา ภารตี อดีตรัฐมนตรีทรัพยากรน้ำของอินเดียและแกนนำระดับสูงในพรรคของโมดี วิพากษ์วิจารณ์การก่อสร้างโครงการพลังงานน้ำในพื้นที่ “ตอนที่ฉันเป็นรัฐมนตรี ฉันเคยร้องขอว่าหิมาลัยเป็นพื้นที่อ่อนไหว ดังนั้น โครงการพลังงานต่างๆ ไม่ควรสร้างบนแม่น้ำคงคมและแม่น้ำสาขาอื่นๆ” เธอเขียนบนทวิตเตอร์
(ที่มา: รอยเตอร์)