สตรีชาวจีนคนหนึ่งซึ่งกินยาแก้อักเสบปกปิดอาการโควิด-19 เพื่อขึ้นเครื่องบินโดยสารจากสหรัฐฯ กลับสู่แผ่นดินเกิดเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน ถููกศาลปักกิ่งพิพาษาจำคุก 1 ปี ในฐานความผิดขัดวางความพยายามควบคุมและป้องกันโรคระบาดใหญ่
คำพิพากษาจำคุก หลี่ นา เป็นเวลา 1 ปี และภาคทัณฑ์อีก 1 ปี เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม แต่เพิ่งเผยแพร่ต่อสาธารณะเมื่อไม่นานที่ผ่านมา และกลายเป็นข่าวพาดหัวโด่งดังในสื่อมวลชนของจีนเมื่อวันอังคาร (26 ม.ค.)
ศาลในเขตชุนยี่ของกรุงปักกิ่งระบุในคำพิพากษาว่า พฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้ละเมิดกฎระเบียบต่อต้านโรคระบาดใหญ่ของศุลกากร และกรมการบินพลเรือนของจีน ก่อ “ความเสี่ยงร้ายแรง” ต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
หลี่ พำนักอยู่ในแมสซาชูเซตส์ ในช่วงไม่กี่ปีหลัง และทำงานให้กับไบโอเจน บริษัทยาสหรัฐฯ แต่เหมือนกับเพื่อนร่วมชาติคนอื่นๆ เธอเลือกเดินทางกลับจีนระหว่างเกิดโรคระบาดใหญ่ ด้วยเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ผลมากกว่าบรรดาชาติตะวันตกทั้งหลาย
ผูู้หญิงวัย 37 ปีรายนี้ รู้สึกป่วยหลายวันก่อนออกเดินทาง แต่ไม่ยอมคืนตั๋วแม้ว่าเพื่อนคนหนึ่งของเธอถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยเธอเลือกกินยาลดไข้เพื่อปกปิดอาการต่างๆ ของการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และโดยสารเครื่องบินในเส้นทางที่ใช้เวลานาน จากบอสตันสู่ลอสแองเจลิส แล้วค่อยต่อมายังปักกิ่ง
ปัญหาทางสุขภาพของเธอเพิ่งถูกสังเกตพบหลังจากเครื่องบินลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2020 และจากการตรวจเชื้อพบว่าเธอติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดเธอ 63 คนต้องเข้าสู่มาตรการกักกันโรค
นอกจากเผชิญโทษจำคุกแล้ว หลี่ ยังถูกไบโอเจนไล่ออกจากงาน โดยทางบริษัทอ้างว่าเธอตัดสินใจเดินทางไปยังจีนโดยไม่ได้แจ้งต่อนายจ้าง และละเมิดคำแนะนำด้านสุขภาพซึ่งไม่สอดคล้องกับค่านิยมของทางบริษัท
(ที่มา : รัสเซียทูเดย์)
