เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในนอร์เวย์ในวันจันทร์ (18 ม.ค.) หาทางปัดเป่าความกังวลด้านความปลอดภัยที่มีต้นตอจากข่าวคราวการเสียชีวิตของคนไข้วัยชราหลายสิบคน หลังได้รับวัคซีคป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเทค ระบุไม่พบหลักฐานว่ามันมีความเชื่อมโยงกัน
รายงานในเบื้องต้นจากนอร์เวย์ ก่อความกังวลในวงกว้าง ด้วยทั่วทั้งโลกกำลังจับตามองผลข้างเคียงต่างๆ ที่อาจเกิดจากการใช้วัคซีนไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
อย่างไรก็ตาม แม้มีความเป็นไปได้ที่ผลข้างเคียงของวัคซีน อาจทำให้ซ้ำเติมให้โรคประจำตัวแย่ลง แต่พวกเขาก็คาดหมายไว้อยู่แล้วว่าบรรดาผู้พักอาศัยอยู่ตามบ้านพักคนชราอาจเสียชีวิตไม่นานหลังได้รับวัคซีน เพราะเหตุเสียชีวิตเกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้วในบรรดาคนไข้ชราภาพที่ป่วยหนักและเปราะบางมากที่สุด
“ชัดเจนว่าตัวของโควิด-19 มีความอันตรายต่อคนไข้ส่วนใหญ่มากกว่าวัคซีนมากมาย” สเตอินาร์ แมดเซน ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของสำนักงานยาแห่งนอร์เวย์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กทางโทรศัพท์ในวันจันทร์ (18 ม.ค.) พร้อมระบุว่า ความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนกับเหตุเสียชีวิตนั้น เป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ “แต่เราไม่กังวล”
ตัวเลขล่าสุดของสำนักงานยาแห่งนอร์เวย์ พบว่า มีคนชราอายุ 75 ปีขึ้นไป 33 คน เสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีน แต่ทั้งหมดล้วนป่วยหนักอยู่ก่อนแล้ว
ทั้งนี้ ประเทศในแถบสแกนดิเนเวียแห่งนี้ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่บรรดาผู้พักอาศัยอยู่ตามบ้านพักคนชราไปแล้วเกือบทั้งหมด โดยจนถึงช่วงบ่ายวันจันทร์ (18 ม.ค.) มีคนได้รับวัคซีนไปแล้วมากกว่า 48,000 ราย
แมดเซนระบุอัตราการเสียชีวิตคิดเป็นไม่ถึง 1 ใน 1,000 ของบรรดาคนไข้ตามบ้านพักคนชราที่ได้รับวัคซีน แต่ก็ยอมรับว่า ผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน ในบางเคส อาจทำให้คนไข้ “มีอาการหนักกว่าเดิมสืบเนื่องจากโรคประจำตัว” เขากล่าว “เราไม่สามารถปฏิเสธในเรื่องนี้”
ประเทศอื่นๆ ในนั้นรวมถึงเยอรมนี และอิสราเอล รายงานพบผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่นานเช่นกัน แต่ไม่ได้ระบุถึงความเชื่อมโยงกัน ส่วนคณะที่ปรึกษาด้านวัคซีนของรัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เปิดเผยในวันจันทร์ (18 ม.ค.) กำลังเสาะหาข้อมูลเพิ่มเติมจากรัฐบาลนอร์เวย์และเยอรมนี ในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค ที่พวกเขาอนุมัติใช้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักว่า ในแต่ละวันจะมีผู้สูงวัยราว 45 คน เสียชีวิตตามบ้านพักคนชราในนอร์เวย์ ดังนั้น มันจึงไม่ได้เป็นตัวแทนของอัตราการตายอันเลยเถิด หรือมีสาเหตุที่เชื่อมโยงกัน” คามิลล สโตลเทนเบิร์ก หัวหน้าสถาบันสุขภาพแห่งชาติของนอร์เวย์กล่าว
จนถึงวันศุกร์ (15 ม.ค.) นอร์เวย์เพิ่งใช้วัคซีนตัวเดียวของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค และตอนนี้ทั้งสองบริษัทกำลังทำงานร่วมกับนอร์เวย์เพื่อตรวจสอบการเสียชีวิต
(ที่มา : บลูมเบิร์ก)