โรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ในวันพุธ (23 ธ.ค.) เปิดเผยว่า มีประชาชนมากกว่า 1 ล้านคน ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 โดสแรกไปแล้ว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าด้านโรคติดต่อของอเมริกา คาดหมายว่า หากทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น สหรัฐฯน่าจะบรรลุเป้าหมายมีภูมิคุ้มกันในประชากรอย่างกว้างขวางช่วงฤดูร้อนปีหน้า
“สหรัฐฯประสบความสำเร็จในเบื้องต้น แต่เป็นหลักชัยที่สำคัญในวันนี้ ตอนนี้ได้รับรายงานมีประชาชนได้รับวัคซีนโควิด-19 โดสแรก แล้วมากกว่า 1 ล้านคน นับตั้งแต่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนเมื่อ 10 วันก่อน” เรดฟิลด์กล่าว
อย่างไรก็ตาม มอนเชฟ สลาอุย หัวหน้าที่ปรึกษาโครงการ Operation Warp Speed ของรัฐบาล ยอมรับว่า เป้าหมายสร้างภูมิคุ้มกันประชาชน 20 ล้านคนในเดือนนี้ “ไม่น่าจะเป็นไปได้” กระนั้นเขาบอกว่าสหรัฐฯยังคงวางเป้าสร้างภูมิคุ้มกัน 100 ล้านคนในช่วงสิ้นสุดไตรมาสแรกของปี 2021 และอีก 100 ล้านคนในไตรมาส 2
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีการส่งมอบวัคซีน 1 ล้านโดสทั่วสหรัฐฯ โดยที่วัคซีนของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค ซึ่งเป็นตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติ เริ่มดำเนินการฉีดให้ประชาชนเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ส่วนในสัปดาห์นี้ อเมริกามีเป้าหมายแจกจ่ายวัคซีนของโมเดอร์นา 6 ล้านโดสและอีก 2 ล้านโดสของไฟเซอร์
สหรัฐฯ ชาติที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 หนักหน่วงที่สุดในโลก เวลานี้กำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงอย่างมาก ท่ามกลางสภาพอากาศฤดูหนาว
เวลานี้ในสหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้วมากกว่า 320,000 คน และมันกลายเป็นสาเหตุลำดับต้นๆ ของการเสียชีวิตของผู้คนในสหรัฐฯ ในปี 2020 เป็นรองเพียงโรคหัวใจและโรคมะเร็ง
ผู้พักอาศัยถาวรตามบ้านพักคนชราและบรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุข คือ บุคคลลำดับต้นๆ ที่ได้รับการฉีดวัคซีน ส่วนขั้นต่อไปวางเป้าหมายไปที่คนสูงวัยอายุเกิน 75 ปี และคนงานภาคต่างๆ ที่มีความสำคัญ
นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ คาดหมายว่าหากกระบวนการฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างราบรื่น บางทีอเมริกาอาจบรรลุเป้าหมายสร้างภูมิคุ้มกันประชาชนอย่างกว้างขวางในฤดูร้อนปีหน้า พร้อมบ่งชี้ว่าคู่รักอาจได้รับอนุญาตให้จัดพิธีแต่งงานได้อย่างเร็วที่สุด คือ ในเดือนมิถุนายน และกรกฎาคม
เฟาซี เชื่อว่า พลเมืองในลำดับต้นๆ อาทิ ผู้พักอาศัยอยู่ตามบ้านพักคนชรา, เจ้าหน้าที่สาธารณสุข, คนงานภาคต่างๆ ที่มีความสำคัญ, คนชรา, บุคคลที่มีความเสี่ยงสูง น่าจะได้รับวัคซีนครบในเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน “เราน่าจะเริ่มได้ในเดือนเมษายน ในสิ่งที่ผมเรียกว่า การเปิดฤดูกาลสำหรับวัคซีน กล่าวคือทุกคนในประชาชนทั่วไปที่ต้องการรับวัคซีน จะได้รับการฉีดวัคซีน”
เขากล่าวต่อว่า “พอเราเข้าสู่ช่วงกลางหรือช่วงปลายฤดูร้อน ผมเชื่อว่า ถ้าเราดำเนินการอย่างถูกต้อง เราจะมีประชากรที่ได้รับวัคซีนราวๆ 75% ถึง 80% และเมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น เรามีจะมีร่มสำหรับปกป้องผู้คนทั่วประเทศ”
ความเห็นของเฟาซี มีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯอนุมัติใช้วัคซีน 2 ตัว ในกรณีฉุกเฉิน ประกอบด้วย วัคซีนของไฟเซอร์กับไบโอเอ็นเทค และวัคซีนของโมเดอร์นากับสถาบันสุขสภาพแห่งชาติ
ในวันอังคาร (22 ธ.ค.) รัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงว่า ได้จัดซื้อวัคซีนของไฟเซอร์กับไบโอเอ็นเทคเพิ่มเติมอีก 100 ล้านโดส ซึ่งมีกำหนดส่งมอบในเดือนกรกฎาคม
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ปัจจุบัน สหรัฐฯมีคลังวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเป็น 400 ล้านโดส ครึ่งหนึ่งเป็นของไฟเซอร์และอีกครั้งเป็นของโมเดอร์นา เปิดทางสำหรับสร้างภูมิคุ้มกันประชาชน 200 ล้านคน เนื่องจาก 1 คนต้องใช้วัคซีน 2 โดส
นอกจากนี้แล้ว รัฐบาลยังหวังด้วยว่าบรรดาผู้ผลิตวัคซีนอื่นๆ จะได้รับอนุมัติเพิ่มเติม โดยคาดหมายว่า วัคซีนของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และวัคซีนของแอสตราเซเนกา จะเป็นรายต่อไป
(ที่มา: เอเอฟพี)