xs
xsm
sm
md
lg

ยังไม่จบ! สหรัฐฯ อ้างได้ข้อมูลใหม่ชี้ไวรัสโควิด-19 หลุดมาจากห้องแล็บจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (15 ม.ค.) อ้างว่ามีข้อมูลใหม่บ่งชี้ว่าโรคระบาดใหญ่โควิด-19 น่าจะอุบัติขึ้นจากห้องปฏิบัติการแห่งหนึ่งของจีนและไม่ได้มีต้นตอผ่านการสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ ในความพยายามประโคมโจมตีหนล่าสุด ถาโถมแรงกดดันใส่จีนของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในประเด็นเกี่ยวกับต้นกำเนิดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

สหรัฐฯ อ้างว่าพวกเขาได้หลักฐานใหม่ว่าบรรดานักวิจัยของสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น เกิดล้มป่วยตั้งแต่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนธันวาคม) ก่อนพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันรายแรกในเมืองแห่งนี้ โดยบรรดานักวิจัยเหล่านั้นมีอาการต่างๆ ที่ทางอเมริกาบอกว่าสอดคล้องกับทั้งโควิด-19 และไข้หวัดตามฤดูกาลทั่วไป

ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุข้อมูลนี้ขัดแย้งกับรายงานต่างๆ ก่อนหน้า ที่บอกว่าไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนของสถาบันติดเชื้อโควิด-19 หรือไวรัสที่เกี่ยวข้องกัน พร้อมเรียกร้องคณะสืบสวนขององค์การอนามัยโลกซึ่งเดินทางถึงเมืองอู่ฮั่นในวันพฤหัสบดี (14 ม.ค.) กดดันรัฐบาลจีนเกี่ยวกับข้อมูลใหม่ดังกล่าว

“วันนี้ปักกิ่งยังคงดองข้อมูลสำคัญๆ ที่พวกนักวิทยาศาสตร์ต้องการเพื่อปกป้องโลกจากไวรัสมรณะนี้ และจากไวรัสตัวต่อไป” พอมเพโอกล่าว

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ อ้างว่า จีนขาดความโปร่งใสเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโรคระบาดใหญ่มานานกว่า 1 ปีแล้ว และความพยายามของจีนในการปกปิดข้อบกพร่องต่างๆ ในระยะแรกๆ ต่อแนวทางตอบสนองโรคระบาดใหญ่ ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะได้ข้อสรุปอย่างชัดเจน

“ไวรัสอาจอุบัติขึ้นตามธรรมชาติจากการที่มนุษย์สัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ แพร่กระจายในรูปแบบที่สอดคล้องกับโรคระบาดใหญ่ตามธรรมชาติ” กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุ “หรืออีกทางหนึ่งคือ อุบัติเหตุในห้องปฏิบัติการหนึ่งๆ ซึ่งดูคล้ายกับการแพร่ระบาดโดยธรรมชาติ”

อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงนี้ซึ่งเผยแพร่ออกมาราว 1 สัปดาห์ ก่อนรัฐบาลของทรัมป์พ้นจากตำแหน่ง ไม่มีการลงนามและไม่ได้ให้ข้อมูลสนับสนุนคำกล่าวอ้างแต่อย่างใด

เมื่อถูกสอบถามขอความเห็นเพิ่มเติม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ปฏิเสธให้รายละเอียดไปมากกว่านี้ และไม่ยอมบอกว่าได้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการล้มป่วยของบรรดานักวิจัยในสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น มาจากไหน

ทั้งนี้ จีนยืนกรานปฏิเสธมาตลอด ต่อข้อกล่าวหาที่ว่าไวรัสอาจอุบัติขึ้นจากห้องปฏิบัติการวิจัยหนึ่งของพวกเขา

คำกล่าวอ้างใหม่ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มีขึ้นในขณะที่จีนกำลังเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกรณีที่เบื้องต้นขัดขวางคณะทำงานขององค์การอนามัยโลกบางคน จากการเดินทางเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ ส่วนหนึ่งในความพยายามแแกะรอยหาต้นตอของโรคระบาดใหญ่ โดยอ้างว่าคนเหล่านั้นไม่ผ่านการคัดกรองทางสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วบรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดก็ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศจีน

ปัญหาติดขัดดังกล่าวมีขึ้นหลังจากองค์การอนามัยโลกเคยวิพากษ์วิจารณ์จีน ต่อกรณีที่เลื่อนแผนอนุญาตให้คณะผู้เชี่ยวชาญเดินทางเข้าประเทศมาแล้วหลายต่อหลายรอบ

จีนอยู่ภายใต้การพินิจพิเคราะห์อย่างเข้มข้นนับตั้งแต่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อุบัติขึ้นในจีน แต่รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์หาทางเจาะจงกล่าวโทษปักกิ่งมากไปกว่านั้น หลังจากโรคระบาดใหญ่เล่นงานสหรัฐฯ อย่างหนัก ถึงขั้นที่ทรัมป์และพอมเพโอ เคยเรียกโรครายนี้ว่า “ไวรัสจีน” และ “ไวรัสอู่ฮั่น”

ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ถูกพบในเมืองอู่ฮั่นเป็นครั้งแรกในช่วงปลายปี 2019 และนับตั้งแต่นั้นมันได้แพร่กระจายไปทั่วโลก คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 2 ล้านราย จากผู้ติดเชื้อกว่า 94 ล้านคน และทำลายเศรษฐกิจโลกย่อยยับ

องค์การอนามัยโลกระบุว่า การค้นหาเส้นทางของไวรัสจากสัตว์สู่มนุษย์เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อปกป้องการแพร่ระบาดในอนาคต

(ที่มา : เจแปนไทม์)


กำลังโหลดความคิดเห็น