เอเจนซีส์ - กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ แถลงยืนยันเมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) ว่าพบกอริลลาไม่กี่ตัวติดโควิด-19 ที่สวนสัตว์ซาฟารี ปาร์กของเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย กลายเป็นเคสแรกของโลกที่มีการพบลิงขนาดใหญ่ติดไวรัสโคโรนา
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) ว่า การเพิ่มจำนวนพุ่งสูงของเคสโควิด-19 ในรัฐแคลิฟอร์เนียเลวร้ายมากขึ้น หลังพบว่ามีลิงกอริลลาไม่ต่ำกว่า 2 ตัวภายในสวนสัตว์ซาฟารี ปาร์กของเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย มีผลการตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวก ทางสวนสัตว์ซานดิเอโกและผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แกวิน นิวซอม แถลงในวันจันทร์ (11)
อ้างอิงจากแถลงการณ์พบว่า มีสัตว์ 3 ตัวแสดงอาการป่วยโรคโควิด-19 และต้องสงสัยว่าพวกมันอาจติดมาจากเจ้าหน้าที่คนเลี้ยงที่ป่วยแต่ไม่แสดงอาการ
ทางสวนสัตว์กล่าวว่า นี่ถือเป็นครั้งแรกที่มีการค้นพบลิงขนาดยักษ์ติดโควิด-19 ถึงแม้จะมีการวิจัยก่อนหน้าว่ามีสัตว์ในตระกูลลิงที่ไม่ใช่มนุษย์นั้นสามารถติดเชื้อได้ โดยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ชี้แจงว่า เนื่องมาจากว่าลิงกอริลลาอาศัยอยู่ในลักษระครอบครัวทำให้เชื่อว่าสมาชิกทุกตัวนั้นอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อตามไปด้วย
ทั้งนี้ เริ่มมาตั้งแต่วันพุธล่าสุด (6) ที่ลิงกอริลลา 2 ตัวเริ่มมีอาการไอ และเมื่อนำตัวมาตรวจหาไวรัสเบื้องต้นภายในกลุ่มพบว่า มีการพบไวรัสโควิด-19 ในวันศุกร์ (8) และหน่วยแล็บวิทยาศาสตร์ด้านบริการสัตว์แพทย์ประจำกระทรวงเกษตรสหรัฐฯได้ออกมายืนยันเมื่อวานนี้ (11) ถึงผลการติดเชื้อที่เป็นบวกของกอริลลา
ทางสวนสัตว์ซานดิเอโกกล่าวว่า ในเวลานี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีอาการป่วยร้ายแรงมากเพียงใด แต่ทว่าลิงยักษ์เหล่านี้อยู่ในการจับตาอย่างใกล้ชิด
“นอกเหนือจากอาการไอและมีการคั่งเกิดขึ้นแล้ว ลิงกอริลลานั้นดูแข็งแรงดี” ลิซา ปีเตอร์สัน ( Lisa Peterson) ผู้อำนวยการบริหารสวนสัตว์ซานดิเอโก ซาฟารี ปาร์ก กล่าว
และกล่าวต่อว่า “ในเวลานี้ทั้งฝูงยังคงถูกกักกันโรคด้วยกัน และยังคงสามารถดื่มน้ำและกินอาหารได้ เราคาดหวังถึงการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์”
ทั้งนี้ ทางสวนสัตว์ปิดให้บริการเข้าชมมาตั้งแต่เดือนธันวาคม