ราคาน้ำมันพุ่งแรงในวันพุธ (6 ม.ค.) จากข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบีย เห็นพ้องลดกำลังผลิตเพิ่มเติมมากกว่าที่คาดหมายไว้ ส่วนวอลล์สตรีททุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังเดโมแครตใกล้กุมเสียงข้างมากทั้งสองสภา ก่อความหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่ทองคำดิ่งกว่า 45 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 50.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 54.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ซาอุดีอาระเบียสมัครใจปรับลดกำลังการผลิตลงอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 8.125 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม
การตัดสินใจดังกล่าวส่งผลให้กำลังผลิตของโอเปกในช่วงไตรมาสแรกจะลดลงกว่าที่คาดหมายไว้อย่างมาก ตามหลังการประชุมของโอเปกพลัสในเดือนธันวาคม
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯพุ่งแรงในวันพุธ (6 ม.ค.) โดยดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักลงทุนเข้าถือของหุ้นภาคการเงินและอุตสาหรรม คาดหมายว่า เดโมแครตจะคว้าชัยในศึกเลือกตั้งวุฒิสภารัฐจอร์เจีย ซึ่งจะทำให้พวกเขากุมเสียงข้างมากทั้ง 2 สภา
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 437.80 จุด (1.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 30,829.40 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 21.28 จุด (0.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,748.14 จุด แนสแดค ลดลง 78.17 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 12,740.79 จุด
โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า เขามีความหวังว่าพรรคเดโมแครตจะกวาดชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจีย โดยจะสามารถคว้าทั้ง 2 ที่นั่งในรัฐดังกล่าว และขณะนี้มีแนวโน้มว่าผู้ลงคะแนนเสียงในรัฐจอร์เจียกำลังช่วยให้พรรคเดโมแครตสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา
นางเคลลี ลอฟเฟลอร์ และ นายเดวิด เพอร์ดิว จากพรรครีพับลิกัน ครองตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาในรัฐจอร์เจียในขณะนี้ ซึ่งหากทั้งสองสามารถรักษาเก้าอี้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็จะทำให้พรรครีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาต่อไป ด้วยคะแนนเสียง 52 ต่อ 48 เสียง
อย่างไรก็ดี ถ้าหาก นางลอฟเฟลอร์ และ นายเพอร์ดิว พ่ายแพ้ให้แก่ นายราฟาเอล วอร์นอค และ นายโจน ออสซอฟฟ์ ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต ทางพรรคเดโมแครตก็จะสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยมีคะแนนเสียง 50 ต่อ 50 เสียง รวมกับอีก 1 เสียงจากนางกมลา แฮร์ริส ว่า ที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะสามารถใช้สิทธิลงคะแนนเสียงดังกล่าวในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง เพื่อชี้ขาดในกรณีที่วุฒิสมาชิกลงคะแนนเสียงเท่ากันในญัตติใดญัตติหนึ่ง
สื่อมวลชนรายงานว่า นายวอร์นอค สามารถคว้าชัยชนะเหนือนางลอฟเฟลอร์ได้แล้ว ขณะที่คะแนนของนายออสซอฟฟ์ยังคงนำนายเพอร์ดิว
หากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยคว้าตำแหน่งวุฒิสมาชิกในรัฐจอร์เจียทั้ง 2 ที่นั่ง ก็จะทำให้ทางพรรคสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะเอื้อต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19
ด้านราคาทองคำในวันพุธ (6 ม.ค.) ร่วงลงหนักกว่า 45 ดอลลาร์ หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเพิ่มขึ้น โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 45.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,908.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา: รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์)