วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในปีนี้ ไม่เหมือนกับปีไหนๆ ด้วยข้อบังคับสกัดโรคระบาดใหญ่ จำกัดการรวมตัวของผู้คน คนจำนวนมาก จึงหันไปโบกมืออำลาส่งท้ายปีที่อยากจะลืมเลือนผ่านการดูการจุดพลุไฟทางโทรทัศน์ หรือไม่ก็ปิดตัวเงียบอยู่ในบ้าน เนื่องจากไม่สามารถต้อนรับเพื่อนฝูง หรือดื่มเฉลิมฉลองกับคนแปลกหน้าได้
ในขณะที่เข็มนาฬิกาค่อยๆ ก้าวผ่านช่วงเวลาเที่ยงคืนในเอเชียและเซาท์แปซิฟิก รวมถึงตะวันออกกลาง, ยุโรป, แอฟริกาและทวีปอเมริกา ประสบการณ์แปลกใหม่ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สะท้อนถึงแนวทางตอบสนองต่อโควิด-19 ของแต่ละชาติ บางประเทศยกเลิก หรือบางแห่งลดระดับงานฉลอง แต่ก็หลายชาติซึ่งไม่เผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรง ยังสามารถจัดงานฉลองได้เหมือนกับปีอื่นๆ
ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติแรกที่ได้ต้อนรับปี 2021 ปกติแล้วในปีที่ผ่านๆ มา ฝูงชนนับล้านจะมาแออัดยัดเยียดบริเวณอ่าวซิดนีย์ เพื่อดูพลุไฟ แต่ในปีนี้ ส่วนใหญ่แล้วเฝ้าดูการจุดพลุผ่านสถานีโทรทัศน์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ร้องขอประชาชนดูพลุไฟแสดงแสงสีเสียง 7 นาที ลอยขึ้นจากสะพานอ่าวซิดนีย์และบริเวณโดยรอบ จากที่บ้าน
เมลเบิร์น เมืองที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลีย ยกเลิกงานจุดพลุไฟประจำปี เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่สนับสนุนให้ผู้คนรวมตัวกัน และเจ้าหน้าที่ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็ตัดสินใจแบบเดียวกัน ส่วนที่จัตุรัสไทม์ส สแควร์ ของนิวยอร์ก แม้จะมีปล่อยลูกบอลยักษ์เหมือนที่ผ่านๆ มา แต่ตำรวจปิดกั้นสถานที่เฉลิมฉลอง ฝ่ายจัดหันไปจัดงานแบบออนไลน์แทน
อย่างไรก็ตาม บางพื้นที่ที่เคยมีประชาชนมารวมตัวกันมากที่สุดในโลกในวันส่งท้ายปีเก่า 31 ธันวาคม อย่างดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยังคงเดินหน้าจัดงานต่อไปแม้จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูง ภาพของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสวมหน้ากากปรากฏบนตึกเบิร์จ คาลิฟา อาคารสูงที่สุดในโลก ช่วงสั้นๆ ก่อนพลุไฟถูกจุดจากตึกขึ้นสู่ท้องฟ้า ผู้คนหลายหมื่นไหลบ่าสู่ท้องถนน และพบเห็นผู้คนส่วนใหญ่ตามจัตุรัสต่างๆ เพิกเฉยต่อมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
ที่แอฟริกาใต้ ทางการได้ร้องขอประชาชนยกเลิกงานปาร์ตี แล้วหันมาจุดเทียนเพื่อเป็นเกียรติแก่บรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและระลึกถึงผู้คนที่เสียชีวิตจากโรคระบาดใหญ่โควิด-19
ในหลายประเทศยุโรป เจ้าหน้าที่เตือนว่าพวกเขาพร้อมปราบปรามขาเที่ยวทั้งหลายที่ละเมิดกฎระเบียบด้านสาธารณสุข ในนั้นรวมถึงประกาศเคอร์ฟิวยามค่ำคืนในฝรั่งเศส, อิตาลี, ตุรกี, ลัตเวีย, สาธารณรัฐเช็ก และ กรีซ ส่วนรัฐบาลสหราชอาณาจักรวิงวอน หวังเห็นประชาชนอยู่บ้านเพื่อความปลอดภัยในวันปีใหม่ ในขณะที่พลเมืองส่วนใหญ่ของอังกฤษ อยู่ภายใต้ข้อจำกัดอันเข้มข้น ห้ามอยู่ร่วมกับคนต่างครอบครัว พร้อมทั้งสั่งปิดบาร์และร้านอาหารต่างๆ
ผู้คนมากมายทั่วโลกมองไปยังปี 2021 ด้วยความหวัง ส่วนหนึ่งจากการมาถึงของวัคซีน ที่มอบโอกาสแห่งการเอาชนะโรคระบาดใหญ่ “ลาก่อน 2020 คงมีบางอย่างที่ดีขึ้นในปี 2021” บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก กล่าว พร้อมประกาศกร้าวว่า เมืองแห่งนี้ ซึ่งพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้วกว่า 25,000 คน จะฟื้นตัวในปีหน้า
ในรีโอ เด จาเนโร ของบราซิล การแสดงพลุไฟและงานฉลองอย่างเป็นทางการก็ถูกยกเลิกเช่นกัน เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ โดยเจ้าหน้าที่เมืองรีโอ ตัดสินใจปิดคาปาคาบานา ซึ่งปกติประชาชนหลายล้านคนจะแต่งชุดสีขาวมารวมตัวกันบริเวณชายหาด เพื่อดูพลุไฟและร่วมชมคอนเสิร์ตใหญ่ แต่ในปีนี้ ระหว่างวันที่ 20.00-06.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม มีเพียงชาวบ้านท้องถิ่นเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงชายหาดเลื่องชื่อของประเทศ
ที่เกาหลีใต้ รัฐบาลกรุงโซลยกเลิกพิธีเคาะระฆังประจำปีเนื่องในวันปีใหมี ในเขตชงโน ถือเป็นครั้งแรกที่มีการยกเลิกนับตั้งแต่พิธีดังกล่าวเริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1953 ไม่กี่เดือนหลังสิ้นสุดสงครามเกาหลี
(ที่มา: เอพี)
