กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเห็นชอบความเป็นไปได้ที่จะขายกระสุนนำวิถี 3,000 ลูกแก่ซาอุดีอาระเบีย ในข้อตกลงที่อาจมีมูลค่าสูงสุดถึง 290,000 ล้านดอลลาร์ จากการเปิดเผยของเพนตากอนในวันอังคาร(30ธ.ค.)
ความเป็นไปได้ที่จะขายอาวุธในครั้งนี้ มีขึ้นในวันท้ายๆของวาระดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยประกาศว่าจะระงับการขายอาวุธแก่ซาอุดีอาระเบีย ชาติผู้ซื้ออาวุธของสหรัฐฯรายใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง ในความพยายามกดดันให้ ริยาด ยุติสงครามในเยเมน ซึ่งก่อวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งเลวร้ายที่สุดของโลก
แพ็คเกจนี้จะประกอบด้วยระเบิดนำวิถี GBU-39 Small Diameter Bomb I (SDB I) จำนวน 3,000 ลูก, บรรจุภัณฑ์, อุปกรณ์สนับสนุน, อะไหล่และการสนับสนุนทางเทคนิค
"ข้อเสนอขายจะปรับปรังแสนยานุภาพของซาอุดีอาระเบียให้ทันกับภัยคุกคามในปัจจุบันและในอนาคต ด้วยการเพิ่มคลังสำรองกระสุนยิงจากอากาศสู่ภาคพื้นที่แม่นยำและมีพิสัยทำการระยะไกล" เพนตากอนระบุในถ้อยแถลง
ถ้อยแถลงของเพนตากอนระบุว่า "ขนาดและความแม่นยำของ SDB I ทำให้มันเป็นกระสุนทีมีประสิทธิภาพ ก่อความเสียหายข้างเคียงน้อยกว่า"
สำนักงานความร่วมมือด้านความมั่นคงกลาโหม (Defense Security Cooperation Agency - DSCA) ของเพนตากอน แจ้งต่อสภาคองเกรสต่อความเป็นไปได้ที่จะขายอาวุธครั้งนี้ในวันอังคาร(30ธ.ค.)
สมาชิกสภาคองเกรสมีความโกรธกริ้วต่อตัวเลขการเสียชีวิตของพลเรือนที่สูงลิ่วในเยเมน และก่อนหน้านี้เคยพยายามัดขวางการขายฝูงบินรบ F-35 แก่ริยาด แต่ประสบความล้มเหลว
อย่างไรก็ตามแม้ผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงการต่างประเทศแล้ว การแจ้งครั้งนี้ไม่ได้บ่งชี้ว่ามีการลงนามในสัญญาหนึ่งสัญญาใด หรือบ่งชี้ว่าการเจรจาได้บทสรุปแล้ว
(ที่มา:รอยเตอร์)