ชาวอเมริกันหลายล้านคนจะสูญเสียสิทธิประโยชน์ที่รัฐให้กับคนตกงานในวันนี้ (26 ธ.ค.) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ปฏิเสธลงนามกฎหมายอนุมัติรายจ่ายและมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 มูลค่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าวงเงินที่จะจ่ายให้กับประชาชนผู้เดือดร้อนนั้น “น้อยเกินไป”
ผู้นำสหรัฐฯ สร้างความตกตะลึงให้กับสมาชิกสภาคองเกรสด้วยการประกาศว่า “ไม่แฮปปี้” กับร่างงบประมาณซึ่งผ่านความเห็นชอบจากทั้ง 2 สภาแล้ว โดยกฎหมายฉบับนี้กำหนดวงเงินเยียวยาผลกระทบจากโควิดมูลค่า 892,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะช่วยต่อเวลาจ่ายเงินชดเชยคนว่างงานที่จะหมดอายุลงในวันที่ 26 ธ.ค. และยังจัดสรรรายจ่ายทั่วไปสำหรับรัฐบาลอีก 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ไปจนถึงเดือน ก.ย. ปี 2021
เมื่อไม่มีลายเซ็นจากทรัมป์ ชาวอเมริกันราว 14 ล้านคนจึงต้องเตรียมตัวเสียสิทธิประโยชน์ที่คนว่างงานได้รับในวันนี้ (26) อีกทั้งรัฐบาลสหรัฐฯ ก็จะเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์บางส่วนตั้งแต่วันอังคารที่ 29 ธ.ค. เว้นเสียแต่สภาคองเกรสจะผ่านร่างงบประมาณฉุกเฉินได้ทัน
หลังใช้เวลาเจรจาต่อรองนานหลายเดือน ในที่สุดสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันก็บรรลุข้อตกลงแพ็กเกจเยียวยาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว และ ทรัมป์ เองก็ไม่ได้แสดงท่าทีคัดค้านอะไร จนกระทั่งร่างกฎหมายผ่านการรับรองจากสภาคองเกรสเมื่อค่ำวันจันทร์ (21)
แต่แล้วจู่ๆ ผู้นำสหรัฐฯ ก็ออกมาโวยวายว่าร่างกฎหมายนี้จัดอนุมัติค่าใช้จ่ายด้านการส่งเสริมวัฒนธรรรม, ช่วยเหลือต่างชาติ และเรื่องที่ไม่จำเป็นอื่นๆ มากเกินไป ในขณะที่ชาวอเมริกันได้รับเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงรายละ 600 ดอลลาร์ ซึ่ง ทรัมป์ เห็นว่า “น้อยจนน่าขำ”
ทรัมป์ เรียกร้องให้สภาคองเกรสเพิ่มมูลค่าเช็คสั่งจ่ายโดยตรงให้คนอเมริกันส่วนใหญ่ จาก 600 ดอลลาร์ เป็น 2,000 ดอลลาร์สำหรับคนโสด และ 4,000 ดอลลาร์สำหรับคู่สมรส
“ทำไมพวกนักการเมืองถึงไม่อยากให้ชาวอเมริกันได้รับเงิน 2,000 ดอลลาร์ แต่กลับให้แค่ 600 ดอลลาร์ เอาเงินให้ประชาชนซะ!” ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันคริสต์มาส ซึ่งเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการออกรอบตีกอล์ฟที่รีสอร์ต มาร์-อา-ลาโก ในรัฐฟลอริดา
แม้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับ ทรัมป์ ว่าวงเงินช่วยเหลือออกจะน้อยเกินไปหน่อย แต่ก็เห็นว่าจำเป็นจะต้องอนุมัติเงินช่วยเหลือประชาชนในทันที
แหล่งข่าวคนหนึ่งเผยว่าท่าทีของ ทรัมป์ สร้างความตกตะลึงแม้แต่กับเจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวเอง และยังไม่ชัดเจนว่าผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งเหลือเวลาทำงานอีกไม่ถึง 1 เดือนจะเดินอย่างไรต่อ
ทรัมป์ ไม่ได้ใช้อำนาจวีโตร่างกฎหมายนี้ จึงมีความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะยอมลงนามในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ที่มา : รอยเตอร์